The Present Move

เดือนกันยาฯ กำลังจะผ่านไป ทำอย่างไรให้มีแรงใจสู้ต่อจนถึงสิ้นปี

The Present Move | Mindful Global Citizens

“Summer has come and passed 
The innocent can never last 
Wake me up when September ends.”

เดือนกันยายนวนมาทีไร เนื้อเพลง Wake me up when September ends
ของวง Green Day ก็เป็นเพลงที่วนกลับมาให้เราได้ชวนนึกถึงเฉกเช่นเดียวกัน

ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่ว่าเลยครึ่งปีมาแล้วในช่วงโค้งสุดท้ายใกล้สิ้นปีนั้น เราจะตื่นเต้นว่าคริสต์มาสและปีใหม่ใกล้เข้ามา หรืออาจมาในอารมณ์ที่ว่าเวลาล่วงเลยมาเกือบครบอีกปีแล้ว
แต่ยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นอันหรือสำเร็จในสิ่งที่คาดหวังไว้สักอย่าง

นั่นอาจเป็นสัญญาณหนึ่งจากคอนเซปต์ที่เรียกว่า September Scaries  ที่หมายถึง ช่วงเวลาที่ใครหลายคนอาจรู้สึกหวั่นๆ วิตกบางอย่าง ซึ่งหากเทียบว่าเดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่เราชิลมากที่สุด เดือนกันยายนความรู้สึกอาจกลับตาลปัตรไปดิ่งที่สุดได้เช่นเดียวกัน เพราะว่าด้วยมวลอารมณ์ที่พินิจพิจารณากลับไปกลับมาระหว่างความตื่นเต้นที่จะได้ลุยอะไรใหม่ๆ ในปีหน้า ก็อาจมีบางอารมณ์ที่เรายังค้างคากับเป้าหมายบางอย่างที่ยังไม่เสร็จสิ้น หรือค้างเติ่งมาตั้งแต่ช่วงต้นปี

ทั้งหมดทั้งมวลนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามในชีวิต ทั้งเรื่องงาน เงิน ความรัก ความสัมพันธ์และความฝัน เรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน ซึ่งในแต่ละคนอาจมีการจัดลำดับความสำคัญที่แตกต่างกันออกไป

ความรู้สึกที่ราวกับว่ายังทำอะไรไม่สำเร็จเสร็จสิ้นนี้ล้วนก่อให้เกิดความรู้สึกบางอย่างภายในจิตใจ ที่ทั้งอาจให้เล่าหรือระบายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูก หรือเป็นความคาดหวังที่ไม่รู้จะจัดการอย่างไรเมื่อเรื่องต่างๆ เหล่านั้นยังไม่สมหวัง

แต่ในขณะเดียวกันเราอาจมองได้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่เรายังจัดการได้ บางอย่างอาจไม่เสร็จในวันนี้ ก็ใช่ว่าพรุ่งนี้จะไม่ดีขึ้น และนี่อาจเป็นสัญญาณให้เราไม่ผัดวันประกันพรุ่ง และน้อมรับทุกสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดหวังหรือบีบคั้นจากมันมากเกินไป

และท้ายที่สุดนี้ไม่ว่าต่อๆ ไปมันจะดีหรือร้าย แต่กันยายนจะผ่านไปและจะวนกลับมาอีกครั้งอยู่เสมอๆ

 

ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดอาจเป็นการใช้เวลาทุกวินาทีอย่างคุ้มค่า

เพื่อที่จะได้ทำทุกอย่างในทุกวินาทีของชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่เสียใจหรือเสียดายอะไร

Writer | ภาพตะวัน

Illustrator | Arunnoon

เราสมควรได้รับความรักจากตัวเองมากที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องรอคอยหรืออ้อนวอนขอความรักจากใคร

People Pleaser คือ คนที่ทำเพื่อคนอื่นจนละเลยความรู้สึกของตัวเอง ยอมสละความสุขหรือความสบายส่วนตน เพื่อทำให้ผู้อื่นพึงพอใจ

เน้นซื้อ ไม่เน้นอ่าน ชวนรู้จัก ‘Tsundoku’ ศิลปะแห่งการดองหนังสือที่แค่ได้ซื้อก็รู้สึกดี 

ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจลิสต์รายชื่อหนังสือที่ต้องการ เพื่อบุกงานหนังสือฯ เติมสต๊อกหนังสือใหม่เข้ากองดอง แต่เมื่อหันกลับมามอง เฮ้ย ที่ซื้อมาก่อนยังไม่ได้อ่าน

โชคดีเหลือเกินที่บังเอิญได้ค้นพบ ชวนรู้จัก Serendipity ให้ความ ‘บังเอิญ’ และเรื่องที่ไม่คาดหวัง ได้มีโอกาสเข้ามาในชีวิต

เรากำลังพูดถึงแนวคิดแบบ ‘Serendipity’ หรือความรู้สึก ‘โชคดีที่บังเอิญได้พบ’ ที่ไม่ได้พูดถึงดวง หรือจักรวาลที่มอบโชคดีให้เราจากความบังเอิญ แต่เป็นการที่เรามองความบังเอิญนั้นๆ เป็นโชคดี และต่อยอดมันไปสู่อะไรบางอย่างในชีวิต