
เดือนกันยาฯ กำลังจะผ่านไป ทำอย่างไรให้มีแรงใจสู้ต่อจนถึงสิ้นปี
เดือนกันยายนวนมาทีไร เนื้อเพลง Wake me up when September ends ของวง Green Day ก็เป็นเพลงที่วนกลับมาให้เราได้ชวนนึกถึงเฉกเช่นเดียวกัน
หากกล่าวคำว่า ‘Mindfulness’
คุณมักคิดถึงอะไร?
สติสตางค์
การนั่งสมาธิ
ความธรรมะธัมโม
และอื่นๆ อีกมากมาย
ซึ่งคำคำนี้ในหลายบริบทอาจดูนามธรรม เข้าใจยาก จับต้องไม่ได้ หรืออาจรู้สึกราวกับว่าเราต้องเข้ารับการบำบัดใดๆ เพื่อให้เกิด Mindfulness ที่แท้จริงขึ้นมา
แต่ในวันนี้ The Present Move ขอพาทุกท่านมาทบทวนนิยามของคำว่า ‘Mindfulness’ กันอีกครั้งว่ามีความหมายอย่างไร เข้าใจและเข้าถึงยากจริงหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้เข้าใจคำคำนี้ และบริบทการใช้ได้มากขึ้น
“ไม่ใช่เพียงการนั่งสมาธิ แต่หมายถึงการมีชีวิตอย่างตระหนักรู้อยู่กับปัจจุบันขณะ”
นี่อาจเป็นคำนิยามที่ชัดที่สุดของการนิยามคำว่า Mindfulness หากถามกับเรา
เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะเมื่อเราพูดถึงสิ่งเหล่านี้แล้วเรามักจะนึกถึงการนั่งสมาธิ
เพราะว่าการนั่งสมาธิอาจเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้เราได้กลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะ
ด้วยท่าทางที่อาจนั่งยาก การกำหนดลมหายใจที่หากใครไม่ค่อยได้ทำอาจจะทำให้เรารู้สึกว่า Mindfulness เป็นสิ่งที่เข้าถึงยาก
แต่อันที่จริงสิ่งเหล่านี้อาจเป็นความธรรมดาๆ อย่างการตระหนักรู้ว่า ‘ตอนนี้’
เรากำลังทำอะไร
กำลังรู้สึกอะไรอยู่
ภายในอย่าง ‘ความคิด’ และ ‘ความรู้สึก’ ทางร่างกายและจิตใ
สภาพแวดล้อมรอบข้างกำลังทำงานกับเราอย่างไร
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ‘การตระหนักรู้’ และ ‘การยอมรับ’ สภาวะในขณะที่เกิดขึ้นทั้งจากภายในและรอบข้าง
ซึ่งการตระหนักรู้เท่าทันนั้น เป็นสิ่งที่เราอาจไม่เข้าใจเพียงแค่ได้ยินแนวคิดของมันครั้งแรก
แต่อาจเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาและประสบการณ์ชีวิตเข้ามาปรับใช้เพื่อทำความเข้าใจเสียหน่อย
โดยที่การเรียนรู้เกี่ยวกับ Mindfulness นั้นอาจเริ่มต้นจาก
| สังเกตว่าความคิดเข้ามาและเข้าไป
และสิ่งเหล่านี้มีกระบวนการเข้ามาอย่างไร
เช่น หากเรากำลังรู้สึกว่าตนเองอารมณ์ไม่ดี อาจสำรวจเบื้องต้นว่าความรู้สึกเหล่านั้นเกิดจากอะไร และเราจะจัดการกับมันอย่างไรต่อ
| สังเกตสิ่งที่ร่างกายกำลังพยายามบอก
หากกำลังรู้สึกตึงเครียดหรือวิตกกังวลจนร่างกายแสดงปฏิกิริยาบางอย่างออกมา เช่น หัวใจเต้นเร็ว กล้ามเนื้อตึง หรือหายใจไม่เป็นจังหวะ ให้เรารู้เท่าทันกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
| สร้างช่องว่างระหว่างตัวเราและความคิดของเรา
เพื่อให้สามารถไตร่ตรองสถานการณ์และตอบสนองสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างใจเย็นมากยิ่งขึ้น
ซึ่งหากถามต่อว่าการอยู่กับปัจจุบันขณะผ่านการมี Mindfulness ที่ดีนั้น จะช่วยให้ลดปัญหาสุขภาพจิตได้หรือไม่? ทั้งภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล หรือกระทั่งความรู้สึกเครียดและไม่สบายใจ
อาจกล่าวได้ว่านอกเหนือไปจากการเข้ารับการรักษาหรือบำบัดจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว
การอยู่กับปัจจุบันก็เป็นประโยชน์ในการช่วยให้รู้เท่าทันสภาวะอารมณ์ในเบื้องต้นได้เช่นเดียวกัน เพราะนั่นอาจช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าโดยการวางทุกอย่างให้เป็น ‘ศูนย์กลาง’
ไม่ซ้าย
ไม่ขวา
ไม่เอนเอียงหรือแกว่งไปเพราะโดนอะไรมาไขว้เขว
การรับรู้ชั่วขณะที่เกิดขึ้น อาจช่วยให้เราเข้าใจสภาวะใดๆ ที่เรากำลังเป็นอยู่
และเมื่อใดที่เรารู้สึกกังวล
การมีสติ
อยู่กับปัจจุบันขณะ
สิ่งเหล่านี้อาจช่วยให้เราสงบสติอารมณ์โดยสามารถเชื่อมต่อกับตัวเอง
ผ่านการทำความเข้าใจสถานการณ์ได้มากยิ่งขึ้น
เดือนกันยายนวนมาทีไร เนื้อเพลง Wake me up when September ends ของวง Green Day ก็เป็นเพลงที่วนกลับมาให้เราได้ชวนนึกถึงเฉกเช่นเดียวกัน
ชวนคุยกับ คุณเปา-ชัยยะ ฤดีนิยมวุฒิ บรรณาธิการบริหาร BrandThink และผู้ริเริ่มก่อตั้ง MOODY กับเรื่องราวว่าด้วยเส้นทางที่เริ่มต้นจากความสนใจส่วนตัว
Coming of Age หรือการก้าวผ่านวัย อาจเป็นก้าวแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต เมื่อวัยรุ่นได้เรียนรู้ตนเองผ่านสถานการณ์ต่างๆ ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทัศนคติ ความเชื่อ และตัวตนที่นำไปสู่การเป็นผู้ใหญ่ผ่านบทเรียนต่างๆ ที่เข้ามาทดสอบชีวิตในช่วงเวลานี้