The Present Move

Very Demure, Very Mindful สงบ สง่า อย่างมีสติ เราเรียนรู้อะไรได้บ้างจากเทรนด์ไวรัลนี้

The Present Move | Mindful Global Citizens

ใครที่เล่น TikTok ช่วงเดือนที่ผ่านมา น่าจะผ่านตาคลิปวิดีโอสาวผิวสี ผมบลอนด์ ที่ออกมาแนะนำการวางตัวของสาวยุคใหม่ จนกลายเป็นไวรัลที่มีคนนำไปแชร์ต่อกันอย่างแพร่หลาย

“Very demure, very mindful”  คือวลีไวรัลจาก Jools Lebron คอนเทนต์ครีเอเตอร์ชาวอเมริกัน เจ้าของช่อง joolieannie ที่โพสต์คลิปพร้อมคำบรรยายว่า “How to be demure and modest and respecful at work place” เธอเริ่มต้นคลิปด้วยการชวนให้สังเกตสไตล์การแต่งหน้าบางๆ ของเธอ ที่ให้ความรู้สึก Demure หรือสง่างามมากกว่าแต่งหน้าจัดๆ Lebron ยังเล่าต่อด้วยว่าเมื่ออยู่ในที่ทำงานเธอวางตัวค่อนข้าง Mindful หรือมีสติ และเป็นที่มาของวลีฮิตที่ว่า “Very demure, very mindful” นั่นเอง 

อ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว สงสัยไหมว่า ทำไมจู่ๆ เทรนด์วางตัวอย่างสง่างามและมีสติ ถึงกลายมาเป็นไวรัล หากมองข้ามสไตล์การพูดทอดเสียงอย่างมีจริตจะก้านของ Lebron แล้ว
แมสเซจที่เธอถ่ายทอดก็เป็นเรื่องน่าสนใจและอาจกลายเป็นประเด็นจริงจังที่ชวนให้คิดต่อได้ ว่าในโลกออนไลน์ที่เหล่าคนดัง ที่มักโชว์ไลฟ์สไตล์หรูหราฟู่ฟ่า แสดงความมั่นใจ เล่นใหญ่ เสียงดัง เพื่อให้ได้การยอมรับและมีพื้นที่ในสื่อสังคม แต่แนวทางที่ตรงกันข้าม อย่างความสงบเสงี่ยม สงวนท่าที หรือ  Very Demure ก็อาจเป็นการเปิดพื้นที่ให้กับความหลากหลาย ฉีกออกจากกระแสหลักในปัจจุบัน

โดยเฉพาะในโลกการทำงานที่การแข่งขันสูง การวางตัวเป็นคนแรงๆ อาจเป็นกลไกป้องกันตนเองจากการถูกเอาเปรียบ แต่ก็ใช่ว่าบุคลิกภาพแบบอื่นจะไม่มีความมั่นใจ หรือปกป้องตัวเองไม่ได้ เพราะการแสดงออกที่ต่างออกไป เช่น บุคคลิกสงบเงียบ สงวนท่าที  ก็อาจเป็นความแข็งแกร่งรูปแบบหนึ่งที่ไม่ต้องแสดงออกอย่างเปิดเผยขนาดนั้น 

บทความนี้ชวนไปสำรวจว่าทำไมบางครั้งความสงบ และ มีสติ จึงอาจเป็นอีกหนึ่งหนทางที่ทำให้คุณรอดในโลกแห่งการแข่งได้…และไม่ต้องเหนื่อยเท่าการมีบุคลิกภาพแบบ “ตะโกน” 

| Very Demure นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว

ในคลิปหนึ่งของ Jools Lebron เธอแสดงให้เห็นถึงการมีบุคลิกภาพแบบสงบนิ่ง สงวนท่าทีขณะต่อแถวรอขึ้นเครื่องบิน “I don’t rush. I take my spot. I don’t intrude.” — ไม่รีบร้อน ยืนอยู่ในที่ของตนเอง และไม่แทรกแซงคนอื่น นี่คือสิ่งที่เธอแนะนำ เพื่อสื่อถึงความสงบเสงี่ยมและการควบคุมตนเองในสถานการณ์ต่างๆ หรือเรียกโดยรวมก็คือ Very Demure นั่นเอง 

เว็บไซต์ Vocabulary.com นิยามคำว่า Demure หมายถึงบุคลิกที่สุภาพ สงวนท่าที เขินอายเล็กน้อย เจียมเนื้อเจียมตัว อีกทั้งยังอธิบายเพิ่มเติมว่า คำนี้ถูกใช้บ่อยในอดีตเพื่อชื่นชมคุณลักษณะของหญิงสาวที่แสดงออกถึงความเรียบร้อย สงบเสงี่ยม อย่างไรก็ตามในยุคปัจจุบัน คำว่า Demure อาจไม่ใช่คำที่ถูกนำมาใช้บ่อยๆ ซึ่งในแง่หนึ่ง ก็สะท้อนว่าบริบทของสังคมก็มีส่วนกำหนดคำศัพท์ที่ใช้ด้วยเช่นกัน 

จากนิยามดังกล่าว เราสามารถอนุมานได้ว่า บุคลิกภาพของคนเรามักมีความเกี่ยวข้องกับยุคสมัยและบริบทของสังคม ยุคหนึ่งบุคลิกภาพที่สงบเสงี่ยมอาจเป็นคุณสมบัติที่สังคมชื่นชม แต่ในยุคปัจจุบัน สังคมอาจให้ค่ากับการแสดงออกอย่างมั่นใจหรือความกล้าหาญในการแสดงความคิดอย่างเปิดเผย การที่คำว่า Demure กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง อาจสะท้อนถึงความต้องการสร้างสมดุลระหว่างการแสดงออกที่มั่นใจกับความเรียบง่าย มีสติ และสงบ ที่ไม่ได้พบเห็นบ่อยนักในปัจจุบัน

เราคงไม่อาจบอกได้ว่าบุคลิกภาพแบบใดดีกว่ากัน แต่ละแบบก็มีจุดเด่น จุดด้อยแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ความนิ่งสงบและสงวนท่าที อาจไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนแอ ไร้พลัง หรือยอมคนเสมอไป ในทางตรงกันข้าม ความสงบนั้นอาจเป็นอาวุธที่ทรงพลัง เพราะในหลายสถานการณ์ คนที่นิ่งกว่า สงบกว่า มักมองเห็นรายละเอียดหรือความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการกระทำและคำพูดต่างๆ  ชัดกว่า ทำให้รับมือกับสถานการณ์อย่างมีสติมากกว่า โดยไม่ต้องแสดงออกอย่างแข็งกร้าวออกมา 

| Very Mindful สติมา ปัญหาหมด

 

ท่าทีสงบเสงี่ยม เกิดขึ้นได้ จากการมีสติรู้ตัว แต่น่าเสียดายว่าในชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ ปัจจัยภายนอกมักทำให้เราดำเนินชีวิตโดยขาดการตระหนักรู้ถึงปัจจุบันขณะ ไม่ว่าด้วย วิถีชีวิตที่เร่งรีบ หรือความเครียดจากการรับข้อมูล ข่าวสารตลอดเวลา และการสื่อสารที่ต้องตอบสนองทันที ทำให้เกิดภาวะต้องทำหลายสิ่งพร้อมๆ กัน (multitasking) จิตใจจึงมักถูกดึงออกไปจากสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ทำให้ไม่สามารถจดจ่ออยู่กับปัจจุบันได้

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การถูกครอบงำด้วยเทคโนโลยี เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือหรือโซเชียลมีเดียตลอดเวลา ส่งผลให้เราอยู่ในสภาวะถูกกระตุ้นตลอดเวลา จนแทบไม่มีเวลาคิดทบทวน หรือไม่มีเวลาอยู่กับตัวเอง เมื่อถูกกระตุ้นจากเทคโนโลยีต่างๆ บ่อยเข้า ก็เกิดเป็นภาวะเหนื่อยล้า เครียด ไม่สามารถมีสมาธิจดจ่อกับงาน ไปจนถึงการละเลยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต

หลายคนคงเคยได้ยินคำพูดเตือนสติให้คนเราหยุดชื่นชมดอกไม้ระหว่างทาง นั่นเป็นเพราะ วิถีชีวิตทุกวันนี้มักดึงความสนใจของคนเราออกไปจากปัจจุบันขณะ ทำให้สูญเสียโอกาสที่จะชื่นชมยินดีกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เมื่อเป็นเรื่องการทำงาน คนที่ทำหลายสิ่งได้พร้อมๆ กัน อาจได้รับความชื่นชมว่ามีความสามารถ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ยิ่งทำหลายอย่างพร้อมกัน ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะผิดพลาดมากขึ้น และมีโอกาสที่จะหลงลืมชื่นชมรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างการทำงานด้วย 

ในทางจิตวิทยา การมีสติ (Mindfulness) ช่วยให้เราเท่าทันความคิด อารมณ์ และสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวได้อย่างชัดเจน ทำให้จัดการความคิด รับมือความเครียด แก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ถูกอารมณ์พาไปจนตัดสินใจผิดพลาด สติช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการตอบสนองต่อปัญหา แทนที่จะตอบโต้ด้วยอารมณ์หรือความเครียด นำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การมีสติในการทำงาน เช่น ฟังประชุมอย่างตั้งใจ ไม่พะวงเรื่องอื่น หรือจดจ่อกับงานที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่ปล่อยให้ความคิดวิ่งออกนอกกรอบ รวมทั้งการตอบข้อความอย่างรอบคอบ ช่วยลดความยุ่งยากในการทำงาน ลดโอกาสความเข้าใจผิด ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นสำหรับทุกฝ่าย




ไวรัล Very Demure, Very Mindful อาจชวนให้เราหันกลับมาตั้งคำถามกับพฤติกรรมที่เราใช้โต้ตอบสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ความสงบ เรียบร้อย มีสติ อาจไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนแอ หรือไม่มั่นใจ แต่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรับมือกับโลกที่อึกทึกครึกโครม ความนิ่งสงบช่วยให้เห็นรายละเอียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดีกว่า  ไม่ว่าจะเป็นในการทำงานหรือในชีวิตประจำวัน เราจะพบว่าแทนที่จะดิ้นรนหรือแสดงออกด้วยท่าทีแข็งกร้าว เสียงที่ดังแบบตะโกน เพื่อเรียกความสนใจจากทุกสายตา การรักษาท่าทีที่เรียบร้อยและสงบเสงี่ยม อยู่ในพื้นที่ของตัวเอง ก็สามารถสร้างความเคารพและความน่าเชื่อถือได้เช่นกัน 

ท้ายที่สุดแล้ว บุคลิกภาพเป็นทางเลือกที่ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจและความสบายใจของแต่ละบุคคล ไม่มีบุคลิกแบบใดที่ถูกหรือผิด ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่แสดงออกอย่างมั่นใจ หรือคนที่สงบเสงี่ยม ทั้งสองแบบต่างก็มีคุณค่าในตัวเอง สิ่งสำคัญคือ การมีสติรู้ตัวในการแสดงออก และเคารพบุคลิกภาพที่แตกต่างโดยไม่ละเมิดสิทธิซึ่งกันและกัน เพราะในยุคที่โลกวุ่นวายซับซ้อน การมีสติอาจเป็นเส้นทางหนึ่งที่พาเรากลับสู่ความเรียบง่าย ปลดล็อกความเครียดในชีวิตประจำวัน และค้นพบความสุขแท้จริงได้จากภายใน 

ล้มเหลว ไร้จุดหมาย ก็อาจแวะพักระหว่างทางได้ ชวนอ่าน ‘ร้านชำอิงอิง ที่พักพิงสำหรับผู้อ่อนล้า’ หนังสือฮีลใจคนวัยทำงาน

เพราะอะไรหลายคนถึงยอมจากบ้านเกิด เข้ามาแสวงหาความสำเร็จในเมืองใหญ่? สำหรับคนต่างจังหวัดที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตการทำงาน พอเรียนจบก็อยากทำงานหาเงิน แต่กลับบ้านเกิดไปก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรให้ทำ

อย่าเป็นคนดี เพียงเพราะมีคนดู เปลี่ยน Performative Kindness สู่ Mindful Kindness ด้วยสติรู้เท่าทัน

เคยสงสัยไหมว่าความใจดีที่แสดงออก ไม่ว่าจะจากตัวเราเองหรือจากผู้คนที่เราพบเห็น มาจากใจที่อยากช่วยเหลือจริงๆ หรือเป็นเพียงการแสดงแลกยอดไลก์

เมื่อกายและใจเหนื่อยล้า ‘การเดินเข้าป่า’ อาจพบคำตอบ Forest Bathing การอาบป่าที่ชวนพาใจให้กลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะ

ในช่วงเวลาดีๆ อากาศเป็นใจ เราอยากชวนทุกท่านปลดปล่อยสัมภาระ หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด ก่อนที่จะก้าวเท้าเข้าป่าไปสำรวจโลกใบใหม่ไปกับเรา