The Present Move

เติมเต็มชีวิตและสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับ ‘ครอบครัวทางใจ’ ด้วยสายใยแห่งความเข้าใจที่ไม่จำกัดด้วยสายเลือด

The Present Move | Mindful Global Citizens

เคยรู้สึกเหงาใจ มีเรื่องราวอยากจะแบ่งปันกับใครสักคน แต่ไม่รู้จะไปบอกใครไหม?

การมีใครสักคนอยู่เคียงข้าง คอยรับฟัง และเข้าใจความรู้สึกของเรา มันช่างเป็นเรื่องราวอบอุ่นใจเหลือเกิน

ผู้คนเหล่านั้นอาจไม่จำเป็นต้องจำกัดแค่กับคนในครอบครัว แต่อาจเป็นใครสักคนที่คอยรับฟังและพร้อมอยู่เคียงข้างเราตลอดเวลา

เป็น ‘เพื่อนแท้’ หรือ ‘คนที่ไว้ใจ’ โดยไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด 

บุคคลเหล่านั้นอาจเป็น ‘ครอบครัวทางใจ’ (Support System) ที่อยู่รอบตัวเราทั้งสิ้น

‘ครอบครัวทางใจ’ เป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มคนหรือความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจากการเชื่อมโยงด้วยใจ ให้ความช่วยเหลือและอยู่เคียงข้างเราในวันที่เราต้องการใครสักคน เป็นที่พึ่งทางอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน ครู หรือคนสำคัญในชีวิต 

พวกเขาเหล่านั้นคือบุคคลที่เป็นคนคอยสนับสนุนทั้งในช่วงเวลาที่ดีและร้ายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต นอกจากครอบครัวที่ผูกพันทางสายเลือดแล้ว คนกลุ่มนี้ก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน พวกเขาคือคนที่เราเลือกให้เข้ามาในชีวิต และมักจะเป็นที่พึ่งพิงที่มั่นคงในยามที่เราต้องการมากที่สุด 

ทั้งนี้ Support System มี 2 รูปแบบหลักๆ คือ การซัปพอร์ตทางตรง ที่หมายถึง การพูดคุย รับฟัง ให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัว รวมถึงการสนับสนุนเรื่องปัญหาค่าใช้จ่าย และการซัปพอร์ตทางอ้อม หมายถึงการกล่าวคำชม ยิ้มให้ พูดให้กำลังใจ และใช้คำพูดเชิงบวก

โดยที่บทบาทของพวกเขาจะมีดังนี้

เป็นผู้สนับสนุนทางอารมณ์

การใครสักคนที่สามารถรับฟัง ปลอบโยน และให้คำปรึกษาเมื่อเผชิญกับความรู้สึกเหนื่อยล้าหรือท้อแท้ ครอบครัวทางใจจะเป็นผู้ที่เราไว้ใจพอจะเปิดเผยความรู้สึก และพวกเขาจะคอยรับฟังอย่างจริงใจ ไม่ตัดสิน ใช้คำพูดที่ปลอบใจ เพื่อช่วยแบ่งเบาความเครียดทางอารมณ์ที่เผชิญในแต่ละวัน

| ให้คำแนะนำที่หลากหลายมุมมอง

ครอบครัวทางใจมักมาจากหลากหลายสังคมและประสบการณ์ พวกเขามักมีมุมมองที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการให้คำแนะนำในเรื่องการงาน ความสัมพันธ์ หรือเรื่องส่วนตัว การที่มีคนหลายมุมมองมาช่วยชี้แนะแนวทางทำให้เราได้รับความคิดที่ครอบคลุมและลึกซึ้งยิ่งขึ้น

| การสร้างความมั่นใจในตัวเอง

ครอบครัวทางใจมีบทบาทสำคัญในการช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเรา พวกเขาเชื่อมั่นในศักยภาพของเรา แม้ในวันที่เราเองอาจรู้สึกไม่มั่นใจ การสนับสนุนที่มั่นคงจากคนเหล่านี้ทำให้เรารู้สึกว่ามีคนอยู่เคียงข้างในทุกช่วงเวลาของชีวิต และกล้าที่จะก้าวข้ามความกลัวหรือความลังเล

| การร่วมเผชิญปัญหา

เมื่อเผชิญกับความท้าทายทั้งในเรื่องการงานหรือชีวิตส่วนตัว ครอบครัวทางใจจะไม่ปล่อยให้เราผ่านสถานการณ์เหล่านั้นไปคนเดียว พวกเขาจะช่วยแบ่งเบาความหนักหน่วงของปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการช่วยกันหาทางแก้ไข หรือแม้แต่อยู่เป็นกำลังใจใกล้ๆ สิ่งนี้ทำให้เรามีกำลังใจในการต่อสู้กับอุปสรรคมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทุกคนล้วนต้องการที่พึ่งพิงและความเข้าใจ บางครั้งความเหงาอาจทำให้เรารู้สึกโดดเดี่ยว แต่รู้ไหมว่า รอบตัวเรามีคนที่พร้อมจะรับฟังและเข้าใจเราเสมอ เพียงแค่เราเปิดใจให้กว้าง การสร้างครอบครัวทางใจจึงทำให้หลายวิธี เช่น การออกไปทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ เข้าร่วมงานหรือกิจกรรมที่ตัวเองสนใจ รวมถึงการดูแลตัวเอง เพราะเมื่อเรารู้สึกดีกับตัวเอง เราจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นได้ง่ายขึ้น ลองหาเวลาทำกิจกรรมที่ชอบ ออกกำลังกาย หรือพักผ่อนให้เพียงพอ

มาถึงตรงนี้ คุณผู้อ่านอาจพอมองเห็นแล้วว่า ครอบครัวทางใจมีความสำคัญไม่แพ้ครอบครัวทางสายเลือด เปรียบเสมือนการมีบ้านหลังที่สอง ที่เราสามารถกลับไปพักผ่อนและเติมพลังได้เสมอ พวกเขาคือผู้ฟังที่ดีที่สุด ผู้ให้คำปรึกษาที่น่าไว้วางใจ และเป็นกำลังใจที่คอยผลักดันให้เราก้าวต่อไปข้างหน้า

และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น ไม่ใช่แค่การมีเพื่อนมากมาย แต่คือการมีคนที่เข้าใจเราอย่างแท้จริง ทำให้ชีวิตมีความหมายมากขึ้น และช่วยให้เราเติบโตเป็นคนที่ดีขึ้น ดังนั้น อย่ากลัวที่จะเปิดใจและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น เพราะทุกคนล้วนต้องการคนที่เข้าใจและอยู่เคียงข้าง

เดินสำรวจเมือง ทำกิจกรรมสนุกๆ สูดอากาศดีๆ มีปฏิสัมพันธ์กับคนใหม่ๆ

มาใช้วันลาไปพักร้อนกันเถอะ! ชวนมองข้อดีของการหาเวลาออกไปเที่ยวที่ช่วยบูสต์พลัง แถมยังทำให้เราไม่แก่ก่อนวัย

ตัวตนอาจไม่ใช่สิ่งที่ค้นหา แต่เป็นการสร้างขึ้นมา

เคยสงสัยไหม? เพราะอะไรใครต่อใครจึงมักพูดว่า “กำลังค้นหาตัวตน” เราบอกเล่าและกล่าวต่อสิ่งนี้ราวกับว่า ‘ตัว’ และ ‘ตน’ เป็นสิ่งที่เราต้องค้นหา

แบกไว้เต็มบ่า ไม่รู้จะพึ่งใคร รู้จักภาวะ Hyper-independence ใจอ่อนล้าเพราะพึ่งพาตัวเองมากเกินไป

ถ้าตอนนี้คุณมีอาการปวดบ่า คอ ไหล่ หากไม่ใช่อาการของออฟฟิศซินโดรม ก็อาจเกิดจากการเป็น ‘เดอะแบก’ ที่คอยแบกรับเรื่องราวปัญหาหรือภาระต่างๆ ไว้จนหนักเต็มบ่า