
มีคนรู้ใจแล้วค่ะ คนนั้นคือ ‘ตัวฉัน’ Self-partnered ความสัมพันธ์แบบที่มีตัวเองเป็นคนรักและคนรู้ใจ
ปี 2024 ที่กำลังจะย่างก้าวเข้าปี 2025 แบบนี้ เราทุกคนควรจะเข้าใจกันอย่างเป็นปกติว่า ‘การเป็นคนโสด’ เป็นสิ่งที่ ‘เลือกได้’ ไม่ได้ผิดแปลก
ในทุกวันนี้อาจปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งในคำที่เราได้ยินกันมากที่สุดคำหนึ่งคือ ‘Work-life Balance’ รวมถึงคำในคอนเซปต์ที่แตกต่าง หากแต่พูดถึงเรื่องงานและการใช้ชีวิตเหมือนกันอย่าง ‘Work-life Integration’ และล่าสุดในเป็นที่ถูกพูดถึงอย่างมาก เช่นคำว่า ‘Work Hard to Survive’ อีกด้วย
หรือกระทั่งสิ่งที่เราได้ยินกันมาตั้งแต่เด็กๆ อย่าง ‘Work Hard, Play Hard’ เองก็ตาม
ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญระหว่าง ‘การทำงาน’ และ ‘การใช้ชีวิต’
ซึ่งเป็น 2 เรื่องสำคัญของมนุษย์อย่างเราๆ
ถึงทุกคำจะมีความแตกต่างกันในเชิงรายละเอียด แต่หัวใจหลักของแทบทุกคำที่กล่าวมานั้นเป็นอะไรที่แสดงให้เห็นว่าการทำงานเป็นส่วนหนึ่งสำคัญของคนเรา และการใช้ชีวิตก็ไม่ต่างกัน และเพื่อให้ชีวิตเรามีสีสันมากยิ่งขึ้น เราจึงควรจัด ‘สมดุล’ ระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตให้ได้
เมื่อไม่กี่วันก่อนทางเพจ The Present Move ได้ลงโพสต์ Thought เกี่ยวกับ Work-life Balance เป็นภาพนี้ ซึ่งเราเองก็ได้สังเกตว่าสิ่งเหล่านี้อาจเป็นเรื่องที่โดนใจมนุษย์ออฟฟิศอย่างเราๆ
เพราะคำว่า ‘ชีวิต’ เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของเราๆ และ ‘งาน’ เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น หาใช่ทั้งหมด
เรายังมีครอบครัว แฟน งานอดิเรกต่างๆ ออกเดินทางท่องเที่ยว ทำงานอาสา และอื่นๆ อีกมากมายไม่รู้จบ เพราะเรามีชีวิตแค่เพียงครั้งเดียวจึงต้องใช้ให้คุ้ม
แต่ผู้เขียนก็เชื่ออีกเหมือนกันว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่นำ ‘งานอดิเรก’ หรือ ‘ความชอบ’ มาทำเป็นงาน อาจเพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่เราทั้งชอบ ทำได้ดี และสามารถอยู่กับสิ่งเหล่านี้ได้นานมากกว่าอย่างอื่น
ผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในคนนั้น ชีวิตนี้ผู้เขียนชอบและถนัดอยู่ไม่กี่อย่าง และมีงานอดิเรกคือการอ่านหนังสือและวิเคราะห์อะไรต่างๆ ไปเรื่อยทั้งเพลง หนัง ละคร อีกทั้งผู้เขียนเองก็ทำงานเกี่ยวกับด้านการเขียนและการสื่อสารเสียเป็นส่วนใหญ่ ตั้งแต่ช่วงใกล้เรียนจบในชั้นปริญญาตรีมาจึงทำงานเกี่ยวกับด้านต่างๆ เหล่านี้มาโดยตลอด
ซึ่งผู้เขียนเองก็มีความสุขกับมันดี มีบ้างที่เปิดกระดาษมาอยู่กับหน้าจอสี่เหลี่ยมเปล่าๆ แล้วไม่รู้จะพิมพ์อะไร หรือกระทั่งบางช่วงเวลาก็มีช่วงที่พิมพ์รัวจนปวดนิ้วมือก็ยังทำงานไม่ทันเสียที หรือรู้สึกว่าเขียนงานบ่อยจนคำศัพท์ในหัวเริ่มจะวนในอ่าง และเริ่มไม่พอใจกับงานของตัวเองในที่สุด
ในบางครั้งความเหนื่อยมันก็ทำให้เราเกิดอารมณ์ที่หลากหลาย ซึ่งสิ่งที่เราทำได้อาจจะต้องเริ่มจากรู้ให้เท่าทันตัวเองว่าตอนนี้เรากำลังรู้สึกอะไรอยู่
กลับมาที่เรื่องของ ‘งาน’ และ ‘การใช้ชีวิต’ ก็เช่นกัน มันอาจไม่มีคำที่ตายตัวว่า ‘Work-life Balance’ ควรเป็นแบบใด แต่การจัดการชีวิตของตนเองให้ดีและมีความสุข เหล่านี้ก็อาจเป็นการสร้างสุขภาวะที่ดีในแบบของเราเองก็เป็นได้
ซึ่งหากเราเป็นคนบ้างาน และรู้สึกว่าการทำงานเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของชีวิต นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่สิ่งสำคัญคือเราจะปรับสมดุลกับมันอย่างไรให้ไม่กัดกินชีวิตด้านอื่น
วันนี้เราจึงมีวิธีการจัดการตัวเองฉบับคนบ้างานมาฝากกัน!
สุดท้ายนี้ เรื่องของ Work-life Balance อย่างไรก็เป็นเรื่องที่สามารถถกกันได้ไม่รู้จบเพราะนิยามความสมดุลในชีวิตของแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน แต่สิ่งที่สำคัญคือทักษะของการจัดการตัวเอง (Self-management) ที่จะสามารถช่วยเป็นแนวทางหนึ่งให้เราสามารถใช้ชีวิตได้ในมิติที่หลากหลายไปพร้อมกันได้โดยที่อาจจะทำออกมาได้ดีเกือบทั้งหมด
แล้วทุกท่านมีวิธีการจัดการตัวเองเพื่อให้ชีวิตสมดุลจากการทำงานอย่างไรกันบ้าง มาแชร์กันได้นะคะ : – )
ปี 2024 ที่กำลังจะย่างก้าวเข้าปี 2025 แบบนี้ เราทุกคนควรจะเข้าใจกันอย่างเป็นปกติว่า ‘การเป็นคนโสด’ เป็นสิ่งที่ ‘เลือกได้’ ไม่ได้ผิดแปลก
‘ฟ้าไม่เคยมืดเกินมองเห็นดวงดาว’ หรือ ‘โตขึ้นมาเป็นความสุข’ ชื่อหนังสือจากปลายปากกาของ ศร-ศวัส มลสุวรรณ นักเขียนและเจ้าของเพจ ‘คิดมาก’ ที่หลายคนรู้จัก
Serial Monogamy เป็นคำเรียกของการไปต่อในความสัมพันธ์ครั้งใหม่ได้เลยในเวลาสั้นๆ หลังจากสิ้นสุดความสัมพันธ์ครั้งเก่า โดยส่วนมากแล้วจะใช้เวลาเพียง 2-3 สัปดาห์ หรืออาจจะไม่เกิน 2-3 เดือนในการคบกับคนใหม่