The Present Move

น้องนอนไม่หลับ หัวใจมันกระสับกระส่าย ชวนรู้จัก ‘Random Thought’

The Present Move | Mindful Global Citizens

‘ความคิดที่มักเข้ามาทักทายยามค่ำคืนก่อนนอน’

“ดอกไม้อะไร ดึกแล้วยังไม่นอน ก็ดอกนีออน…บานค่ำ”

ดึกดื่นทีไร เนื้อเพลงท่อนนี้ก็ลอยเข้ามาในหัวเราทุกที เพราะมันตรงกับสถานการณ์ในวันที่แม้จะตั้งปณิธานไว้แล้วว่า วันนี้จะนอนเร็ว! แต่บางครั้งก็ดันสวนทางกับความคิด หลับตาอยู่ดีๆ ก็คิดนู่นนี่ คิดนี่ หันซ้าย หันขวา กระสับกระส่ายขึ้นมา คิดตั้งแต่ พรุ่งนี้จะกินอะไรดี พรุ่งนี้จะใส่ชุดอะไรดี ยันเรื่องซีเรียสว้าวุ่นใจ อย่างเรื่องงาน ว่าพรุ่งนี้จะทำได้ไหม เตรียมตัวดีหรือยัง บลาๆๆ หรือบางครั้งสมองก็แล่นไอเดียสุดบรรเจิดขึ้นมาดื้อๆ จนต้องลุกขึ้นมาจดกันลืม สรุปจะได้นอนกี่โมง เฉลยหน่อย!

เราชวนรู้จัก Random Thought หรือความคิดสุดแสนจะแรนด้อมที่มักจะมาทักทายเรายามค่ำคืน และชอบเล่นตลกออกแนวขี้แกล้ง เพราะมักจะโผล่มาในช่วงเวลาที่เราควรจะนอน หรืออยากจะนอนแล้วเอาดื้อๆ ซึ่งเราจะมาเล่าว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และบางครั้งมันก็เกี่ยวเนื่องกับปัญหาสุขภาพจิตและความกังวล หรือความเครียดลึกๆ ที่เรามีอยู่ทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัวด้วยนะ

ขอพูดถึงข้อดีก่อน หลายคนคงเคยได้ยินมาบ้างว่า ทำงานตอนดึกๆ ไอเดียพุ่งกระจายกว่าตอนเช้า หรือตอนเที่ยง ที่บางครั้งก็ทำให้คิดอะไรไม่ออก ซึ่งเบื้องหลังไอเดียที่อยู่ดีๆ ก็ปิ๊งขึ้นมาตอนเรากำลังจะหลับก็มีที่มาที่ไป โดยจากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์จากบทความในวารสารฟอร์นเทียร์ (Frontiers) ระบุว่า นักวิทยาศาสตร์เชื่อกันว่า ความคิดเลิศๆ ที่เราคิดขณะอยู่บนเตียง มันมาจากการที่สมองของเราอยู่ในสภาวะ ‘ผ่อนคลาย’ จึงเอื้อให้สมองเกิดความยืดหยุ่น (Neuroplasticity) และนักจิตวิทยาจากยูซี ซาน ดิเอโก (UC San Diego) ก็พบว่าเราอยู่ในจุดพีกที่จะมีความคิดสร้างสรรค์โลดแล่นแบบสุดๆ ในช่วงหลับฝัน (REM Sleep) หรือพูดให้ง่ายกว่านั้นก็คือช่วงที่เรานอนหลับไม่สนิท มีการกลอกตาไปมา ดิ้นไปดิ้นมา หันซ้ายที ขวาที ซึ่งสำหรับบางคนจะมองมันเป็นข้อดีก็ได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า สมองที่โลดแล่นแบบนี้ ก็กินเวลานอนที่ควรจะเต็มอิ่มของเราไปด้วยเหมือนกัน

มาถึงปัจจัยที่หลายคนรู้สึกว่า การคิดนู่น คิดนี่ จนนอนไม่หลับทำให้เรารู้สึกเซ็ง เมื่อเราอยากบังคับตัวเองให้นอนหลับ ในวันที่อยากนอนเต็มที่ หรือพรุ่งนี้มีนัดสำคัญจริงๆ แต่สมองกลับดื้อรั้น ไม่ยอมทำตาม ซึ่งส่วนหนึ่งนั้นมาจากความวิตกกังวล และความเครียด

Michael Breus นักจิตวิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านความผิดปกติที่เกี่ยวกับการนอนหลับ กล่าวว่า มีหลายเหตุผลมากๆ ที่เราไม่สามารถหยุดคิดเรื่องต่างๆ ก่อนเข้านอนได้ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่คุณกำลังสำรวจเมืองใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ หรือแค่ยุ่งๆ กับงานรูทีนที่ทำอยู่ประจำ สมองของเราก็จะรวบรวมข้อมูลใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวันเข้ามาในหัว 

“คุณมีเวลาเงียบๆ จนกว่าจะขึ้นเตียง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนั้น รวมถึงความกังวล มันก็ตามคุณมาด้วย” เขากล่าว นั่นอาจหมายความว่า หากเราเพิ่งจะได้ไปสำรวจที่ใหม่ๆ มีประสบการณ์ใหม่ๆ หรือกำลังจะได้มีประสบการณ์ใหม่ๆ เราอาจจะมีความตื่นเต้น และความคิดนั้นมันก็โผล่มาได้ตอนนอน และนั่นทำให้คุณตื่นตัวขึ้นมา เช่นเดียวกับความคิดด้านลบ ที่หากคุณเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาก หรือมีบางอย่างมารบกวนจิตใจเข้าระหว่างวัน แล้วปัญหานั้นไม่ได้ถูกแก้ไข หรือคุณไม่ได้รู้สึกสบายใจก่อนเข้านอน Michael Breus บอกว่า “มันก็เป็นสัญญาณว่ามีบางอย่างที่ตึงเครียดกำลังเกิดขึ้นในชีวิตนะ”

และที่วุ่นวายใจไปกว่านั้นคือ ยิ่งถ้าเราอยากจะนอนเร็วมากแค่ไหน เราก็จะนอนไม่หลับมากขึ้นไปเท่านั้น! โดย Michael Breus เสริมว่า “หากคุณพยายามนอนเร็ว ในตอนที่สมองไม่ได้พร้อมจะนอนจริงๆ สมองก็จะไปโฟกัสสิ่งต่างๆ” และนั่นทำให้เรานอนไม่หลับสักทีเพราะเรายังไม่ได้ผ่อนคลายจริงๆ

ซึ่งบางคนอาจจะพบว่า ยิ่งนอนไม่หลับก็จะรู้สึกว่าทำไมใจเต้นเร็วจัง จนต้องลุกขึ้นมาตั้งใจหายใจ ทำสมาธิ เพื่อให้รู้สึกสงบขึ้น อาการนี้ล้วนมาจากความวิตกกังวล ที่ทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น และฮอร์โมนความเครียดก็วิ่งผ่านเส้นเลือดของเรา โดย Maren Hyde-Nolan นักจิตวิทยาด้านการนอนหลับ บอกว่า “คุณไม่สามารถวิตกกังวลไปพร้อมๆ กับทำให้ร่างกายสงบลงได้ในคราวเดียว และนั่นก็ทำให้คุณไม่สามารถหลับได้ เมื่อร่างกายของเรา มีการตอบสนองโดยการสู้หรือหนี (Fight-or-Flight Response)” 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสาเหตุจากการคิดนู่น คิดนี่ จนนอนไม่หลับ จะเกิดจากอะไรก็แล้วแต่ เราก็อยากให้ทุกคนลองสังเกตตัวเอง ว่าสาเหตุที่แท้จริงนั้นมาจากอะไร และสุดท้ายถ้าเราจำเป็นต้อง ‘นอน’ เพื่อให้เราได้พักกาย พักใจ เพื่อเตรียมพร้อมในการใช้ชีวิตในวันถัดไปให้ได้ เราก็มีทริคมาฝาก เผื่อจะช่วยให้ทุกคนใจสงบลงได้บ้าง

| 1. วางโทรศัพท์ และพักโซเชียลก่อนเข้านอน

เริ่มจากวิธีที่ง่ายที่สุดก่อน นั่นคือการ หยุดเล่นโทรศัพท์ก่อนเข้านอน โดย Lawrence Chan ศาสตราจารย์ด้านอายุรศาสตร์การนอนหลับ กล่าวว่า แสงจากหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ไม่เพียงแต่รบกวนการผลิตเมลาโทนิน (ฮอร์โมนที่ช่วยให้เรานอนหลับ) แต่ยังเพิ่มความวิตกกังวลและความกังวลให้เราได้ด้วย เมื่อเราอ่านข่าวเครียดๆ หรือข่าวที่ชวนปวดหัว ก่อนนอน ซึ่งมีส่วนทำให้สมองของเราเกิดความครุ่นคิดขึ้นมา ซึ่ง Lawrence Chan แนะนำว่าเราควรเลิกเล่นโซเชียลทุกอย่างก่อนเข้านอน 2 ชั่วโมง หรืออย่างน้อย 30 นาทีก็ได้ หากรู้สึกว่าไม่สามารถทำได้จริงๆ 

| 2. ฝึกหายใจก็ช่วยได้

การจะทำให้ความคิดสงบลง คือการที่เราหันเหความสนใจของตัวเองไปอยู่ที่ร่างกาย โดยการฝึกผ่อนลมหายใจให้ช้าลงและยาวขึ้น ซึ่ง Michelle Drerup ผู้อำนวยการฝ่ายอายุรศาสตร์การนอนหลับที่ Cleveland Clinic บอกว่าเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจของเราช้าลง ความดันโลหิตก็จะลดลงเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ร่างกายผ่อนคลาย จิตใจก็สงบลง และหลับง่ายขึ้น

| 3. คลายเครียดด้วยกิจกรรมก่อนนอน

เพื่อให้ร่างกายสงบลงอีก อาจจะลองหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน เหมือนที่หลายคนแซวว่า เวลาเราอ่านหนังสือจะชอบง่วง นั่นก็อาจเป็นวิธีช่วยให้เราหลับได้ทางอ้อมก็ได้ หรือบางคนอาจจะฟังเพลงสงบๆ ฮีลใจ อาบน้ำให้สดชื่น ยืดกล้ามเนื้อก่อนนอน นั่งสมาธิ หรือสวดมนต์ ซึ่งก็อาจช่วยให้เรานิ่งมากขึ้นได้

| 4. ลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างกับความคิดในหัวอย่างเป็นรูปธรรม

 วิธีสุดท้ายที่อาจช่วยได้ คือแก้ไขความกังวล หรือความคิดในหัว ด้วยการทำมันออกมาเลยจบๆ โดย Brandon Peters นักประสาทวิทยา และผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ แนะว่า การได้เขียนสิ่งที่คุณกำลังคิดอยู่ และหาทางออกให้กับมัน อาจจะช่วยคุณได้ เช่น หากมีโปรเจกต์สำคัญที่คุณกำลังกังวลอยู่ ก็ให้ระบุองค์ประกอบที่ทำให้คุณกังวลออกมาเลย 1 2 3 4 และแจกแจงการทำโปรเจกต์นี้ออกมาเป็นข้อๆ ว่าคุณจะเริ่มมันยังไง เมื่อเขียนเสร็จคุณอาจจะเบาใจลงว่า อย่างน้อยคุณก็มีแผนสำหรับการทำสิ่งนี้แล้ว 

หรือสมมติ คิดว่าพรุ่งนี้จะใส่ชุดอะไรดี ถ้านอนไม่หลับเพราะเรื่องนี้ ก็อาจลุกขึ้นมาเตรียมชุดไปเลย จะได้เลิกคิด และทำให้พรุ่งนี้เช้าไม่วุ่นวายเลือกชุดอีกด้วย กระทั่งบางคนอาจจะกลัวลืมของสำคัญที่พรุ่งนี้ต้องเตรียมเอาไปข้างนอก ก็ลุกขึ้นมาจด และแปะไว้ให้เห็นกันลืม สิ่งนี้ก็จะทำให้คุณมั่นใจว่าคุณจะไม่ลืมมัน ซึ่งก็มีบางงานวิจัยที่ชี้ว่า การใช้เวลา 5 นาทีก่อนนอนเขียนสิ่งที่ต้องทำในวันข้างหน้าจะช่วยให้หลับได้เร็วขึ้น


ท้ายที่สุดหากคิดจนปวดหัว ทำทุกวิธีแล้วก็นอนไม่หลับ มีอะไรให้คิดตลอดเวลาตอนกลางคืน การเลือกไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และรับคำปรึกษาที่จะช่วยคุณหาทางออกในการผ่านสภาวะนี้ไปได้ อาจช่วยให้คุณมีการนอนที่ดีและเฮลตี้มากขึ้นก็ได้
ชาวนอนไม่หลับทุกคน สู้ๆ นะ!
 

Rooting & Grounding เพราะเท้าเปล่าๆ ที่แตะพื้นหญ้า ช่วยพาให้เราเชื่อมต่อกับโลกและความสุขในปัจจุบันขณะ

Rooting & Grounding คือหนึ่งในวิธียอดนิยมที่ทำให้ใครหลายคนกลับมาจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งวิธีทำนั้นก็ง่ายแสนง่ายคือการผ่อนคลายให้ตัวเองได้เป็นตัวเองในสถานที่ที่เป็นธรรมชาติ ผ่านการถอดรองเท้าให้เปลือยเปล่า

หลากหลายเรื่องราวความสัมพันธ์ที่เราประสบมาด้วยกันในฐานะมนุษย์ ผ่านนิทรรศการศิลปะและตัวตนของ Tum Ulit ศิลปินหนุ่มผู้ใช้บทเรียนชีวิตมาวาดการ์ตูน 

ภาพวาดของเขาบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้คนเฝ้ามองอย่างเงียบเชียบ ถึงแม้จะไม่มีคำพูดจากตัวละคร แต่เขาก็สามารถสื่อสารประเด็นและความรู้สึกได้แบบไม่ติดขัด