The Present Move

ในวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ จะทำอย่างไรให้ใจไม่หม่นไปตามสภาพอากาศ

The Present Move | Mindful Global Citizens

ฝนตั้งเค้าอีกแล้ว
เมฆหมอกไม่แคล้วครอบคลุมครึ้มไป

ในวันที่ฝนฟ้าไม่เป็นใจ ใครหลายคนน่าจะกำลังประสบกับปัญหาใจหม่นๆ ไปตามสภาพอากาศที่แปรเปลี่ยนไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เพราะเข้าสู่เดือนพฤษภาคมปุ๊บ ฝนก็ตกปั๊บ จากอากาศร้อนๆ ที่ชวนหงุดหงิดและเหงื่อไหลไคลย้อย กลายมาเป็นน้ำฝนอันชุ่มฉ่ำ ที่ในหลายวันก็นำพาจิตใจเราให้ดำดิ่งไปกับสายลมพายุที่พัดโหมกระหน่ำ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในหลายครั้งหลายครา สภาพอากาศส่งผลโดยตรงกับทั้งสุขภาพกายและใจของเราเสียเหลือเกิน 

ในแง่ของร่างกาย แน่นอนอยู่แล้วว่าด้วยอากาศที่เปลี่ยนไป ย่อมส่งผลกับอุณหภูมิภายในโดยตรง โดยเฉพาะกับคนที่มีโรคประจำตัวเป็นภูมิแพ้อากาศ สิ่งเหล่านี้อาจเรียกได้ว่าเป็นความทรมานของพวกเราแบบสุดๆ

แต่ยิ่งไปกว่านั้น ‘สภาวะทางใจ’ ก็เกี่ยวข้องสัมพันธ์อย่างแยกไม่ขาดกับสภาพอากาศเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะมีหลายคนที่ชื่นชอบเวลาฝนตกก็ตาม 

แต่ก็ยังมีใครอีกหลายคนเช่นกัน ที่รู้สึกหมองหม่นราวกับเผลอไผลไปตามฝนฟ้าและพายุ

วันนี้เราชวนทุกคนมารู้จักกับ ‘ภาวะซึมเศร้าตามฤดูกาล’ (Seasonal Affective Disorder) 

อันเป็นสาเหตุที่ทำให้ใครหลายคนรู้สึกหม่นๆ ในวันที่ฝนโปรยปราย ไปจนถึงการรับมือว่าจะทำอย่างไรในวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ ให้เราไม่หมองหม่นไปตามสภาพอากาศ

| ทำความรู้จักกับ ‘ภาวะซึมเศร้าตามฤดูกาล’
(Seasonal Affective Disorder)

ภาวะซึมเศร้าตามฤดูกาล เป็นภาวะทางอารมณ์ชนิดหนึ่งที่เกิดได้ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนของแต่ละปี ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในฤดูหนาวที่กลางคืนมีเวลายาวนานมากกว่ากลางวัน 

แต่ในขณะเดียวกันในฤดูฝนเองก็ได้รับผลกระทบจากภาวะเหล่านี้ไม่ต่างกัน ด้วยแสงแดดที่น้อยลงไปเพราะมีเมฆสีเทาๆ มาแทนที่ เหล่านี้เองจึงส่งผลให้เราขาดการได้รับแสงแดด ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับทั้งฮอร์โมนเซโรโทนินที่ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ และฮอร์โมนเมลาโทนินที่ส่งผลโดยตรงต่อการนอนหลับ ซึ่งทั้งสามสิ่งนี้มีความเชื่อมโยงกันอย่างแทบแยกไม่ขาดเลยทีเดียว นั่นจึงเป็นสาเหตุให้เรารู้สึกหดหู่มากกว่าปกติ เมื่อต้องใช้ชีวิตในวันที่ฝนโปรย

นอกเหนือจากการขาดแสงแดดดังที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว เมื่อ ‘ฝนตก’ ในเมืองที่การจราจรติดขัดเช่นนี้ เราย่อมรู้กันดีว่าพื้นที่บนท้องถนนจะยิ่งติดแน่นขนัดเป็นทวีคูณ และถึงแม้เราจะหนีไปขึ้นรถไฟฟ้าสาธารณะก็ตาม นั่นไม่ได้ทำให้ได้กลับบ้านเร็วขึ้น เพราะในแทบทุกวันคนก็แทบจะล้นออกมานอกสถานี

ทุกสิ่งอย่างประกอบกัน จนอาจทำให้วันเหล่านั้นกลายเป็นวันที่แย่ ซึ่งถึงแม้เราจะแก้ไขอะไรกับสภาพอากาศที่พร้อมแปรเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาไม่ได้ แต่การดูแลจิตใจก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อไม่ให้ทุกวันที่ฝนตกกลายเป็นวันที่แย่และชวนรู้สึกหมองหม่น

ความรู้สึกเศร้า สิ้นหวัง และว่างเปล่า
ความเหนื่อยล้าหรือรู้สึกราวกับขาดพลังงาน
ความรู้สึกผิดหรือคิดว่าคุณค่าในตนเองลดลง
สภาวะที่นอนไม่ค่อยจะหลับ ความอยากอาหารที่ลดลง
การเปลี่ยนแปลงของการนอนหลับและความอยากอาหาร

ล้วนเป็นอาการที่อาจพบเจอ เมื่อจิตใจเราถูกกระทบด้วยภาวะซึมเศร้า

แล้วเราจะ ‘ตั้งรับ’ กับความรู้สึกหรืออาการที่กล่าวไปข้างต้นด้วยวิธีใดได้บ้าง?

| เทคนิคการ ‘ดูแลใจ’ ให้ไม่หม่นไปตามสภาพอากาศ

หากพูดถึงวิธีการดูแลใจ ใครหลายคนอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ยากเกินกว่าที่เราจะทำได้
แต่อันที่จริงแล้วรู้ไหมว่าการดูแลทั้งกายและใจเป็นอะไรที่ง่ายและใกล้ตัวมากกว่าที่คิด 

วันนี้เราลองลิสต์ 5 วิธีง่ายๆ ที่ทำได้เลยตั้งแต่ตอนนี้
และมาชวนทุกคนทำไปพร้อมๆ กันในวันที่เม็ดฝนโปรยปราย

  • รู้เท่าทันความรู้สึกของตัวเราเอง และฝึกใจให้ยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศว่าเป็นเพียงแค่สิ่งที่ผ่านมา แล้วมันก็จะผ่านไป
  • ประคองจิตใจให้มีสติอยู่กับปัจจุบันขณะที่อยู่ข้างหน้า
  • ออกไปพบปะกับผู้คนบ้าง กริ๊งกร๊างหาเพื่อนๆ หรือใครสักคนที่ไว้ใจได้เมื่อเราต้องการ
  • หาโอกาสออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้างในวันที่อากาศเป็นใจ หรืออาจจะเริ่มต้นง่ายๆ จากการออกกำลังกายเบาๆ ขยับตัวสักเล็กน้อยเพื่อให้เรารู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของร่างกายเพื่อเปลี่ยนโฟกัส และไม่ว้าวุ่นกับอารมณ์ดิ่งๆ ที่กำลังเกิด
  • นอนหลับให้เพียงพอ และผ่อนคลายตัวเองทุกครั้งก่อนที่เปลือกตาจะปิดสนิท

หากอ่านมาถึงบรรทัดนี้ เราเชื่อเหลือเกินว่าหลายท่านอาจจะรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่คลีเชแสนเหลือหลาย และอาจเคยได้ยินใครหลายคนก็บอกให้ทำวิธีเหล่านี้มาก่อนหน้าอยู่แล้ว 

ท้ายที่สุด ถึงแม้ว่าใครจะว่าอย่างไร สุดท้ายนี้คนที่เป็นเจ้าของชีวิตและความรู้สึกทั้งหมดนั่นก็คือ ‘ตัวเราเอง’ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราอยากชวนทุกคนให้รู้เท่าทันความรู้สึกของตัวเองในทุกชั่วขณะ และดูแลตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

หากวันนี้เป็นวันที่ไม่ดี ก็ไม่เป็นไรเลย
ขอแค่คุณเชื่อเอาไว้ว่า ‘เดี๋ยวมันก็ผ่านไป’
เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ผ่านมาเห็นโพสต์นี้
และขอให้คุณมีความสุข ยิ้มได้ และใจไม่หมองหม่นแม้กระทั่งในวันที่ฝนตกนะ

 

Writer | ภาพตะวัน 

Illustrator | Arunnoon

ใช้ชีวิตวันนี้ มีความสุขวันนี้ ชวนรู้จัก ‘Stoic’ ปรัชญาสามัญประจำบ้าน ที่ชวนให้เราไม่หวั่นไหวแม้มีอะไรมากระทบ

หลายคนอาจเคยได้ยิน ‘ปรัชญาสโตอิค’ (Stoic Philosophy) อย่างหนาหูตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ ว่ากันว่าปรัชญาสายนี้เป็นปรัชญาแห่งความ ‘ช่างแม่ง’ ที่เสนอว่าให้เราสนใจเพียงแค่สิ่งที่เราควบคุมได้ และปล่อยวางกับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้