The Present Move

หากมนุษย์ไร้ซึ่งไทม์แมชชีนย้อนเวลา จึงอาจต้องหัดเรียนรู้จาก ‘ความเสียดาย’ ให้เป็น

The Present Move | Mindful Global Citizens

ในบางครั้งก็อยากนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปแก้ไขการตัดสินใจต่างๆ แต่เมื่อข้าวสารกลายเป็นข้าวสุก กาลเวลาล่วงเลยผ่านและกระแสธารของกาลเวลาย้ำกับเราเสมอว่า ‘อดีต’ คือสิ่งที่ไม่สามารถย้อนไขกลับไปได้ และ ‘เวลา’ คือเงื่อนไขที่ไร้ซึ่งการต่อรองในชีวิตของมนุษย์เรา

“รู้อะไรไม่สู้ รู้งี้” คำพูดนี้คงเป็นอารมณ์ที่ใครหลายคนรู้สึกในสักช่วงหนึ่งของชีวิต เพราะในบางครั้งเราก็เลือกที่จะ ‘ทำ’ หรือ ‘ไม่ทำ’ อะไรสักอย่างลงไป และในท้ายที่สุดเราเองก็กลับมารู้สึก
‘เสียดาย’ กับการตัดสินใจข้างต้นลงไป

ดังนั้น ความรู้สึก ‘เสียดาย’ นั้น ถึงแม้ว่าเราจะกลับไปแก้ไขอะไรกับเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ได้แล้ว หากแต่เราอาจเรียนรู้อะไรจากความเสียดายนั้นได้เช่นกัน 

บางเหตุการณ์คือสิ่งที่เรารู้ดีแต่ใจว่า อย่างไรสักวันมันคงต้องเกิด แต่บางอย่างที่ว่านั้นในก่อนหน้าเราอาจมองว่ามันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ที่ว่านี้อาจเป็นอะไรที่อาจยังไม่ได้ลงมือทำ เช่น การบอกรักใครสักคน หรือการลงมือทำงานอดิเรกอะไรสักอย่าง ซึ่งหากเป็นในกรณีที่ว่านี้ พอเรารู้ว่ามันมีเปอร์เซ็นต์ของ ‘ความเป็นไปได้’ เหล่านั้นจึงทำให้หลายต่อหลายครั้งเราจึงมานั่งเสียใจและเสียดายกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดไปของตัวเอง 

หากถ้าเรามองว่านั่นอาจเป็นบทเรียนที่ดีในแง่หนึ่ง เหล่านั้นก็อาจทำให้เราเข้าใจได้ถึงความเป็นไปของสรรพสิ่ง และเพื่อที่จะนำการเรียนรู้ที่ได้จากข้อผิดพลาดในครั้งนี้ก็อาจเป็นอะไรที่ยังทำได้อยู่เช่นเดียวกัน

ดังที่กล่าวไปข้างต้นว่าในการใช้ชีวิตนั้น ‘เวลา’ คือเงื่อนไขที่เราต่อรองอะไรไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการเร่งให้มันไวขึ้น หรือกระทั่งขอย้อนกลับไปแก้ไขการตัดสินใจที่พลาด เพราะฉะนั้นการทบทวนตัวเองและอยู่กับปัจจุบันขณะที่สุดที่จะทำให้เราได้เรียนรู้กับความเสียดายในส่วนนั้น

อีกทั้งการตระหนักรู้ในตัวเอง (Self-Awarness) ก็เป็นอีกทักษะหนึ่งที่สำคัญ ที่เมื่อเรารู้เนื้อรู้ตัวและรู้เท่าทันความคิด นั่นจะส่งผลให้เรา ‘รู้จัก’ และ ‘เข้าใจ’ ตัวเองได้อย่างไม่ยากจนเกินไป

เพราะในบางครั้งถึงเราอาจจะอยากเห็นท้องฟ้าเป็นอย่างวันนั้น

หรืออยากขอร้องอ้อนวอนให้อะไรๆ กลับไปเป็นเหมือนเดิมทุกอย่าง

แต่หากสิ่งที่ปรารถนาไม่อาจเป็นดังใจหวัง การยอมรับและปล่อยวางอาจเป็นอะไรที่ดีที่สุดที่อาจทำได้ 

อีกทั้งการเรียนรู้ผ่าน ‘ความเสียดาย’ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแผกอะไร เพราะเพียงการใช้ชีวิตนั้น ใครเล่าจะรู้ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไร ความเสียดายก็อาจเป็นเรื่องที่เราเรียนรู้ได้เพราะในทุกเหตุการณ์ที่เกิดความรู้สึกเหล่านั้นหากทบทวนให้ละเอียดถี่ถ้วนจะค้นพบว่ามันซ่อนบทเรียนอะไรบางอย่างเอาไว้ 

ดังนั้น ‘การอยู่กับปัจจุบันขณะ’ จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้เราอยู่กับความเสียดายได้ โดยที่เรียนรู้จากมันและทำทุกวันให้ดีที่สุด

Writer | ภาพตะวัน

Illustrator | Arunnoon

บันทึกสนทนาฮีลใจและบทเรียนแห่งความสุขจาก ศร-ศวัส เจ้าของเพจ ‘คิดมาก’ นักเขียนที่ใช้ตัวหนังสือเยียวยาจิตใจคนอ่าน

‘ฟ้าไม่เคยมืดเกินมองเห็นดวงดาว’ หรือ ‘โตขึ้นมาเป็นความสุข’ ชื่อหนังสือจากปลายปากกาของ ศร-ศวัส มลสุวรรณ นักเขียนและเจ้าของเพจ ‘คิดมาก’ ที่หลายคนรู้จัก

เราจะดูแลใจอย่างไร ในโลกที่มีความแตกต่างหลากหลายมากมาย

อ่อนโยนกับตัวเองหน่อยนะ หลายคนอาจรู้สึกว่านี่เป็นประโยคที่พูดง่าย แต่ทำยากเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะในโลกที่ทุกคนกำลังวิ่งตามความสำเร็จและมาตรฐานบางอย่าง

Very Demure, Very Mindful สงบ สง่า อย่างมีสติ เราเรียนรู้อะไรได้บ้างจากเทรนด์ไวรัลนี้

ใครที่เล่น TikTok ช่วงเดือนที่ผ่านมา น่าจะผ่านตาคลิปวิดีโอสาวผิวสี ผมบลอนด์ ที่ออกมาแนะนำการวางตัวของสาวยุคใหม่ จนกลายเป็นไวรัลที่มีคนนำไปแชร์ต่อกันอย่างแพร่หลาย