
คุยกับทีม 10DK เมื่อความสุขในชีวิตออกแบบได้ด้วยการจัดบ้าน
พูดคุยกับ คุณนุ้ย-ดร.ปรีชญา ชวลิตธำรง General Manager 10DK และ คุณชื่น-ชื่นกมล อบอาย Head of 10DK Home Tidying Department ตัวแทนจากทีม 10DK Home Tidying
เราน่าจะดูแลน้องให้ดีกว่านี้
เราน่าจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากกว่านี้
เราน่าจะเข้าใจน้องมากกว่านี้
และอีกสารพัดเรื่องน่าเสียดาย ซึ่งเกิดจาก
‘ความไม่รู้’ และ ‘ไม่พร้อม’ ในการเลี้ยงหมาแมว
เชื่อว่าหลายคนเคยเผชิญกับ ‘การสูญเสีย’ จากสัตว์เลี้ยงที่รัก ซึ่งความรู้สึกผิดนั้นยังคงหลงเหลืออยู่ในใจ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม แม้ความรักที่เรามีให้กับสัตว์เลี้ยงจะเป็นรักที่แท้จริงไร้เงื่อนไข แต่ตราบใดที่เราไม่มีความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงดูที่มากพอ หรือความพร้อมในการรับมือเรื่องต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เราจึงไม่อาจรักน้องหมาน้องแมวได้อย่างถูกวิธี
ขณะที่เข็มนาฬิกาไม่สามารถเดินย้อนกลับ เราจะอยู่กับปัจจุบันขณะอย่างมีความสุขได้อย่างไร ในวันที่ความผิดพลาดเกิดขึ้นแล้วในอดีต หรืออาจเกิดขึ้นในอนาคต เพราะเวลาที่เจ้าของกับสัตว์เลี้ยงจะได้อยู่ด้วยกันในจักรวาลนี้อาจน้อยลงทุกนาที
Pet SOULciety คือเพจที่ทำงานเกี่ยวกับ ‘ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง’ พร้อมหยิบยื่นองค์ความรู้เบื้องต้นในการดูแลหมาแมว รวมถึงเครื่องมือและทางเลือกใหม่ๆ ให้แก่เจ้าของ เพื่อเปิดพื้นที่ให้กลุ่มคนรักสัตว์ได้พูดคุย และแบ่งปันเรื่องราวประสบการณ์ซึ่งกันและกัน โดยมุ่งเน้นให้เจ้าของสามารถวางแผนการเลี้ยงดูหมาแมวได้อย่างมีคุณภาพและคุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมถึงเตรียมรับมือและเยียวยาความรู้สึกของตัวเอง เมื่อน้องหมาน้องแมวต้องกลับดาว
เพจนี้เริ่มต้นมาจาก ‘กอเตย-ปิญชาดา’ Death Planner หรือนักวางแผนชีวิตเพื่อการตายดี เจ้าของเพจ Baojai Family อยู่อย่างเบาใจ จากไปอย่างใจเบา ซึ่งเล็งเห็นว่ามนุษย์มีความผูกพันที่แน่นแฟ้นกับสัตว์เลี้ยง เนื่องจากหลายคนที่มาวางแผนชีวิตเพื่อการตายดีนั้นมีความเป็นห่วงสัตว์เลี้ยง หรือบางคนก็มีกำลังใจใช้ชีวิตต่อไปเพราะสัตว์เลี้ยง จึงชวน ‘จุ๊บ-ฐิฏา’ เจ้าของเพจ Go with the Flow-er ซึ่งเคยทำโปรเจกต์เกี่ยวกับน้องหมาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มาร่วมงานด้วย เพราะอยากทำสมุดสำหรับการทบทวนความสัมพันธ์รูปแบบนี้ จนสุดท้าย ‘ปลา-ธนันปภัสร์’ เจ้าของโปรเจกต์ สติ Space , Creative Director ของ Content Agency ชื่อ Creative Spirit ก็ตัดสินใจเข้าร่วมทีมด้วย เพราะอยากสื่อสารเรื่ององค์ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงดูสัตว์ในเชิงลึก
| จุดเริ่มต้นของ Pet SOULciety พยายามที่จะมุ่งสร้างพื้นที่แบบไหน
กอเตย : เพจ Pet SOULciety เป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างมากๆ ไม่ใช่พื้นที่ที่บอกว่าต้องทำอะไรบ้าง แบบไหนถูก แบบไหนผิด หรือโน้มน้าวให้คนอื่นเชื่อเหมือนพวกเราสามคน แต่ต้องการสร้างเครื่องมือใหม่ๆ และมอบทางเลือกให้แก่เจ้าของสัตว์เลี้ยง ซึ่งพวกเขาจะหยิบเครื่องมือไหนไปใช้ก็ได้ รวมถึงเป็นตัวกลางที่ช่วยตั้งคำถาม เพื่อให้คนอื่นๆ ได้แบ่งปันประสบการณ์ และเกิดกระบวนการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
| ให้เดาคิดว่าทุกคนน่าจะเป็นคนรักสัตว์อยู่แล้ว ดังนั้น ‘ประสบการณ์ร่วม’ ที่ทั้งสามคนเชื่อมโยงกัน จนเกิดเป็นเพจ Pet SOULciety
คืออะไร
จุ๊บ : เราเป็น dog person มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ‘คำมุ’ หมาตัวแรกเปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของบ้าน น้องกลายเป็นบทสนทนาหลักที่คนในครอบครัวคุยกัน มีช่วงหนึ่งพาน้องไปหาหมอบ่อยมาก จนหมอบอกว่าอยู่ได้นานที่สุดแค่ 5 เดือน ในช่วงระยะเวลานั้น น้องอยู่โรงพยาบาลมากกว่าอยู่บ้าน ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น และเราไม่รู้ว่า คำมุรู้สึกดีกับการอยู่โรงพยาบาลจริงไหม
เราเห็นน้องโดนเจาะเลือดซ้ำไปซ้ำมา เดี๋ยวตัวบวม เดี๋ยวตัวยุบ มันเป็นภาพที่ทรมานใจมาก เจ้าของจะเริ่มรับรู้ได้เองว่า นี่คือช่วงสุดท้ายแล้วจริงๆ บ้านเราจึงตัดสินพาคำมุกลับมาอยู่บ้าน ซึ่งน้องไม่ร้อง ไม่อาเจียน ไม่แสดงอาการเจ็บออกมาเลย จนกระทั่งวันหนึ่งเราต้องไปประชุมข้างนอก และพี่สาวต้องพาแม่ไปหาหมอ น้องเลือกที่จะไปวันนั้น วันที่ไม่มีใครอยู่บ้าน มีแค่ญาติของเราที่มาช่วยเฝ้าให้ น้องเลือกจากไปในยามที่ไม่มีคนที่รักเห็น
การสูญเสียครั้งนี้ไม่ใช่แค่สูญเสียสัตว์เลี้ยง แต่สูญเสียความสัมพันธ์ในบ้าน และสภาพจิตใจของแต่ละคน เช่น แม่รู้สึกเหมือนสูญเสียเพื่อนคนหนึ่งในชีวิตไป แต่เราก็มองว่าทุกคนทำดีที่สุดแล้วในทุกมิติ สิ่งที่เหลืออยู่จึงไม่ใช่ความรู้สึกติดค้าง แต่เป็นความคิดถึง ทุกวันนี้เราก็ยังเปิดรูปน้องดูอยู่เลย ยังอยากเห็นน้องทั้งในวันที่น่ารัก และวันที่ป่วย เรามองว่ามันเป็นความสูญเสียที่สวยงาม
กอเตย : ประสบการณ์ร่วมคือ ‘ความสูญเสีย’ อย่างตัวเราเองสูญเสียหมาในช่วงมัธยม
‘หวานเย็น’ คือหมาตัวแรกและตัวเดียวที่วิ่งออกไปเล่นข้างนอกแล้วโดนรถชน แต่น้องเลือกที่จะพาตัวเองกลับมาหาเราในบ้าน หวานเย็นเดินมาด้วยสภาพที่ดูเหมือนไม่เจ็บปวดเลย ไม่มีเลือดออกแม้แต่นิดเดียว ตอนนั้นเราตกใจมากที่หมาโดนรถชน และไม่รู้ว่าควรจะช่วยน้องอย่างไร
หวานเย็นค่อยๆ หลับไปในอ้อมกอดเรา ตอนนั้นเรารู้แค่ว่าหวานเย็นจากเราไปแล้ว แต่ไม่เคยทำความเข้าใจเรื่องความรู้สึกของตัวเอง เมื่อโตขึ้นจึงเพิ่งเข้าใจว่า ความรู้สึกจากเหตุการณ์นั้นไม่ใช่แค่ความเสียใจ แต่คือความโศกที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ติดค้าง และโทษตัวเองว่าน่าจะดูแลน้องให้ดีกว่านี้
ปลา : ความสูญเสียของเรามาในรูปแบบสัตว์เลี้ยงหายไปจากบ้าน บ้านเราจะมีแมว 2 ประเภท คือแมวจรที่ให้อาหารจนสนิทกัน และแมวที่อยู่ในบ้าน สำหรับแมวจร เราจะเลี้ยงกึ่งปิดกึ่งเปิด เพราะน้องมีความสุขที่ได้วิ่งเล่นนอกบ้านอย่างอิสระ รวมถึงมีเพื่อนบ้านช่วยดูแลด้วย แต่แมวจรมักจะค่อยๆ ทยอยหายไปทีละตัว และไม่เคยมีตัวไหนกลับมาเลย โดยที่เราไม่รู้สาเหตุว่าน้องๆ หายไปไหน
แต่มีตัวหนึ่งที่เรารักมากชื่อว่า ‘โกล์ด’ ซึ่งไม่สามารถเลี้ยงในบ้านได้ เพราะโกล์ดจะกัดกับแมวตัวอื่น ตอนนั้นเราไม่เข้าใจว่าทำไมแมวกัดกัน (เพิ่งมารู้ทีหลังว่า แมวตัวผู้อยู่ด้วยกันไม่ได้) จึงแก้ปัญหาด้วยการแยกพื้นที่ ซึ่งอยู่ๆ วันหนึ่งโกล์ดก็หายไป
เหตุการณ์ครั้งนี้เหมือนเป็นคำสาปว่า เราจะต้องมองหาแมวที่ลักษณะคล้ายแมวของเราไปตลอดกาล มันเป็นความสูญเสียที่เรายังไม่ได้บอกลา และมีคำถามติดค้างอยู่ในใจ ว่าน้องหายไปไหน หรือยังมีชีวิตอยู่ไหม แต่ท้ายที่สุด เราก็คิดได้ว่า ตัวเองไม่ได้ผลักไสน้องออกไป แต่มันคือการเลือกการตัดสินใจของน้องเอง
| สำหรับเพจ Pet SOULciety สร้างสรรค์กิจกรรมใดบ้าง
กอเตย : เนื่องจากเราอยากสร้างพื้นที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์ จึงจำเป็นต้องมีกระบวนการเรียนรู้อย่างเวิร์กชอป ซึ่งอยากให้ผู้คนได้มีส่วนร่วมมากที่สุด ไม่ใช่แค่มาฟังเลกเชอร์แล้วกลับบ้าน แต่อยากให้เป็นพื้นที่ของการเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน ทั้งเชื่อมโยงกับเพจเรา และเชื่อมโยงกันเอง จนกลายเป็นชุมชนที่พวกเขาสามารถเกื้อหนุนกันได้ พักหลังมานี้ ผู้เข้าร่วมเวิร์กชอปที่ประสบปัญหาเหมือนกันก็เริ่มแลกไลน์และพูดคุยกันแบบส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งนี่คือภาพที่เราตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้น
โดยเวิร์กชอปจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ ‘องค์ความรู้ในการเลี้ยงดูสัตว์’ เช่น เวิร์กชอปครั้งแรก เราทำเรื่อง ‘แมวแก่ แมวเจ็บ แมวป่วย’ โดยสอนเรื่องการปฐมพยาบาลแมว ซึ่งเจ้าของหลายคนไม่เคยทราบมาก่อน
ปลา : ก่อนจะมาทำเพจนี้ แมวของเราป่วย มีแผลหนอง แต่คุณหมอให้เรากลับมาล้างแผลเอง ซึ่งต้องแทงไซริงค์ฉีดน้ำเกลือเข้าไปล้างแผลใต้ผิวหนังแมวทุกวัน สำหรับเรามันยากมาก เช่น แทงสายน้ำเกลือไม่ลึกพอ ทำให้แมวต้องเจ็บตัวเพิ่ม ระยะเวลาการรักษาก็นานขึ้น
เรามีความรู้เกี่ยวกับสัตว์น้อยมาก เรื่องพื้นฐานยังไม่ค่อยรู้เลย ทั้งๆ ที่สัตว์ใกล้ชิดกับเรามาก ค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตก็ไม่เจอ เพราะเคสการรักษาสัตว์แต่ละตัวก็แตกต่างกัน ทุกครั้งที่ไปหาสัตวแพทย์ หมอไม่ได้ตรวจแค่สัตว์เลี้ยง แต่วินิจฉัยจากคำพูดของเจ้าของด้วย จึงอยากทำงานเกี่ยวกับเรื่องพื้นฐานที่ควรรู้ในการเลี้ยงดู และการสังเกตอาการเจ็บป่วยของหมาแมว
กอเตย : หลังจากเวิร์กชอปครั้งแรก ทำให้เราค้นพบอีกหนึ่งมิติที่ขาดหายไปคือ เจ้าของจะดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างไรให้สามารถเข้าใจความต้องการของเขา ทั้งที่สัตว์พูดไม่ได้ หรือเรียกง่ายๆ
คือ ‘การเรียนรู้เรื่องพฤติกรรมสัตว์เลี้ยง’ เราจึงเรียนเชิญ อ.ดร.น.สพ.ปรารมภ์ ศรีภวัศราคม สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์มาเป็นวิทยากรในเวิร์กชอปด้วย ซึ่งมีคนสนใจเรื่องนี้จำนวนมาก เพราะเป็นองค์ความรู้ใหม่ที่ทำให้เจ้าของได้เข้าใจว่า ตัวเองควรจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงต่อไปอย่างไรดี
ปัจจุบัน เราเองก็สนใจเรื่อง ‘การดูแลประคับประคองสัตว์เลี้ยง’ (Palliative Care for Pets) เช่น ถ้าสัตว์เลี้ยงอายุมาก ป่วย หรือเข้าสู่ช่วงระยะสุดท้ายของชีวิต เจ้าของจะต้องดูแลอย่างไรให้ตรงตามความต้องการและสภาพจิตใจของสัตว์เลี้ยง เพราะคนยังพูดได้ว่าต้องการรักษาโรคต่อไป หรือไม่ต้องการให้หมอยื้อชีวิตแล้ว แต่สัตว์พูดไม่ได้ เพราะฉะนั้นเจ้าของจึงควรทำความเข้าใจเรื่องนี้
ส่วนที่สองคือ ‘การทำงานเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง’ ซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักของ Pet SOULciety ในทุกกิจกรรมเราจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ซึ่งเราเปิดเป็นพื้นที่แบบหลวมๆ ผู้เข้าร่วมเวิร์กชอปจะทำงานกับความสัมพันธ์ในระดับไหนก็ได้เท่าที่เขาพึงพอใจ และรู้สึกปลอดภัย
เช่น บางคนอยากทำงานเรื่องคุณค่าหรือรู้จักสัตว์เลี้ยงเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีโอกาสได้กลับไปทบทวนความสัมพันธ์ ในขณะที่บางคนมองว่าพื้นที่นี้ปลอดภัยมาก จึงอยากทำงานเรื่องความสูญเสียที่ผ่านมาในอดีต ก้อนความรู้สึกที่หนักอึ้งก็ได้รับการคลี่คลายลง นอกจากนี้ ในปัจจุบันเรายังเริ่มค้นหาและติดต่อผู้เชี่ยวชาญทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์ รวมถึงในมิติอื่นๆ มาทำงานร่วมกับเรามากขึ้น
| ด้วยความที่เป็นการทำงานกับความสัมพันธ์และการลาจาก พวกคุณมีวิธีสื่อสารอย่างไรให้คนมองเห็นความสำคัญเรื่องความสัมพันธ์
กอเตย : เมื่อทำงานมาระยะหนึ่ง เราสังเกตได้ว่า บางครั้งการสื่อสารไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากมาย เพราะเจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคนเคยพบเจอและเข้าใจประสบการณ์เหล่านี้อยู่แล้ว เช่น ประเด็นการสูญเสียสัตว์เลี้ยง โดยสื่อสารเรื่อง 7 ระยะของความเศร้า (The 7 Stages of Grief) ทำให้หลายคนได้ทบทวนความรู้สึกตัวเองว่าอยู่ระยะไหน และเท่าทันอารมณ์ความรู้สึกตัวเอง
หรือเรื่องการเจ็บป่วยของสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เจ้าของได้ใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น บางคนอาจยังไม่เคยเผชิญประสบการณ์นี้ เราจึงมักจะสื่อสารด้วยคำว่า ‘What if’ ถ้าวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คุณควรจะทำอย่างไร เราสื่อสารแบบนี้เพื่อสร้างการตระหนักรู้ในวงกว้างระดับสังคม แต่ท้ายที่สุด เจ้าของสัตว์เลี้ยงจะเลือกทำงานกับตัวเองในประเด็นเหล่านี้หรือไม่ก็ได้
การทำงานเรื่องความสัมพันธ์ต้องสื่อสารถึงประสบการณ์ที่มีร่วมกัน เช่น ‘นัชญ์ – ประสพสิน’ เจ้าของเพจ ทูนหัวของบ่าว ได้มาแบ่งปันประสบการณ์ดูแลแมวในช่วงระยะท้าย ซึ่งหลายคนมีประสบการณ์ดูแลสัตว์เลี้ยงตัวแรกได้ไม่ค่อยดี หลังจากหมาแมวตัวแรกจากไป เจ้าของก็จะเรียนรู้มากขึ้นว่าอะไรไม่ควรทำ แต่เราสามารถลดการสูญเสียหลายชีวิตจากความไม่รู้ของเจ้าของ ด้วยการมอบองค์ความรู้เรื่องนี้ให้เขาตั้งแต่ต้น
| หนึ่งในกิจกรรมที่พวกคุณออกแบบมี ‘Pet Friendship สมุดฝากรักสัตว์เลี้ยง’ คุณออกแบบให้มีความหมายอย่างไรต่อผู้ใช้?
กอเตย : ‘Pet Friendship สมุดฝากรักสัตว์เลี้ยง’ คือ เครื่องมือที่ทำให้เจ้าของได้กลับมาทบทวนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับสัตว์เลี้ยง อีกทั้งประสบการณ์ในงานของ Death Planner ทำให้เราทราบว่า คนส่วนหนึ่งที่กำลังจะจากไป เขาห่วงสัตว์เลี้ยง เราจึงต่อยอดไอเดียเป็นอีกพาร์ตหนึ่งของ ‘Pet Friendship สมุดฝากรักสัตว์เลี้ยง’ ซึ่งให้เจ้าของได้เขียนเจตจำนงเอาไว้ว่า ในวาระที่เขาไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว เขาอยากฝากสัตว์เลี้ยงไว้กับใคร และสัตว์เลี้ยงของเขามีลักษณะนิสัยอย่างไร ชอบหรือไม่ชอบอะไร หรือสิ่งที่ต้องระวัง เพื่อให้ผู้ที่ฝากรักหรือฝากเลี้ยงคนต่อไปทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า น้องเป็นอย่างไร และสามารถดูแลน้องได้ตามคุณค่าและความต้องการของน้องจริงๆ
ส่วนสุดท้ายใน ‘Pet Friendship สมุดฝากรักสัตว์เลี้ยง’ คือการรับมือกับความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคตสำหรับเจ้าของ เพราะพวกเราสามคนเริ่มต้นสร้างเพจนี้จากความสูญเสียในวันที่ไม่รู้ แต่วันนี้เรารู้แล้วว่า ต้องเตรียมรับมืออย่างไรบ้าง เพื่อให้ความสูญเสียทิ้งไว้เพียงความรู้สึกเสียใจ แต่ไม่เสียดาย ในวันที่ต้องจากเป็นหรือจากตายกับสัตว์เลี้ยงที่รัก
| คำนิยาม ‘สัตว์เลี้ยง’ สำหรับพวกคุณคืออะไร?
จุ๊บ : เรามองน้องเป็นครอบครัว ตอนเราอยู่กับน้อง เราสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ ปกติเราคงไม่พูดเสียงสองเสียงสามกับคนอื่นๆ แต่ถ้าเป็นหมาแมว เราพูดคุยอะไรกับน้องก็ได้ ใช้เสียงที่เท่าไรก็ได้ และเราก็อนุญาตให้น้องเป็นตัวเองอย่างเต็มที่เช่นกัน เราต่างไม่ทำร้ายกันและกัน มันเป็นความรักที่ไม่มีขอบเขตไม่มีเงื่อนไข เราไม่ได้มองน้องเป็นแค่สัตว์เลี้ยง แต่มองว่าเป็นอีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ในครอบครัว แค่พูดกันคนละภาษา แต่มีหัวใจที่สามารถสื่อสารกันได้
ปลา : หลักๆ มองว่าเป็นครอบครัวเหมือนกัน แต่เรานิยามแมวแต่ละตัวแตกต่างกันตรงที่ บางตัวเป็นน้องเรา บางตัวเป็นเพื่อนเรา ส่วนอีกตัวมีคาแรกเตอร์เหมือนแม่เรา (หัวเราะ) เพราะจ้องจะสวบเราตลอดเวลา แต่ก็ใจดีในบางครั้ง
กอเตย : สัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนที่ไม่มีเงื่อนไข หรือ ความคาดหวัง เข้ามาเกี่ยวข้อง เราไม่เคยคาดหวังในตัวน้อง และน้องก็เป็นเพื่อนที่รับฟังเราโดยไม่ตัดสิน หลายคนก็เล่าเรื่องราวชีวิตให้หมาแมวฟัง
| ความรักระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง มีเงื่อนไขความพร้อมเรื่องใดบ้าง?
จุ๊บ : หนึ่งในเงื่อนไขความพร้อมที่สำคัญลำดับต้นๆ ในการรับผิดชอบดูแลชีวิตหนึ่ง ให้มีคุณภาพที่ดี นั่นคือ เรื่องเงิน เพราะอย่างตัวเราเองก็เคยเสียค่าใช้จ่ายหลักแสนเพื่อรักษาหมาในระยะสุดท้าย ในทางกลับกันก็ยังมีเงื่อนไขความพร้อมอื่นๆ อีก เช่น ความสัมพันธ์ในครอบครัว
การดูแลหนึ่งชีวิตมีปัจจัยหลายอย่าง ไม่ใช่แค่เรื่องความรัก หรือความน่ารักของสัตว์เลี้ยง แต่เจ้าของต้องคิดและวางแผนอย่างรอบด้าน เช่น ในเวิร์กชอปครั้งแรกมีคุณแม่พาน้องอายุ 10 ขวบมาเข้าร่วม เนื่องจากพวกเขาเพิ่งเริ่มเลี้ยงแมว จึงอยากให้ลูกเข้าใจว่า หนึ่งชีวิตประกอบไปด้วยอะไรบ้าง การเลี้ยงสัตว์มีภาระหน้าที่หลายอย่าง ไม่ได้มีแค่มุมที่เป็นสุข แต่ความทุกข์ที่ต้องผ่านไปด้วยกันก็ไม่น้อย
ปลา : เงื่อนไขความพร้อมที่สำคัญอีกข้อหนึ่งคือ ‘การเข้าใจพฤติกรรมสัตว์เลี้ยง’ แม้พฤติกรรมส่วนใหญ่จะเกิดจากสัญชาตญาณของสัตว์ แต่มนุษย์มีศักยภาพในการเข้าใจเรื่องนี้ เมื่อเราเข้าใจพฤติกรรมหรือธรรมชาติของสัตว์เลี้ยงอย่างถูกต้อง เราจะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับสัตว์เลี้ยงได้ นำไปสู่การแสดงพฤติกรรมที่ดีออกมา
บางครั้งคนเราเผลอทำร้ายหรือตีสัตว์ เพราะความไม่เข้าใจธรรมชาติพื้นฐานของสัตว์เลี้ยง ซึ่งก่อให้เกิดความรู้สึกผิดที่ติดค้างในใจเป็นระยะเวลานาน
อ.ดร.น.สพ.ปรารมภ์ เคยสอนบทเรียนหนึ่งในเวิร์กชอป นั่นคือการขอ consent ของสัตว์ เช่น การลูบหัวแมว ให้เจ้าของลองลูบหนึ่งครั้งแล้วหยุด ถ้าแมวเบือนหน้าหนี แสดงว่าน้องไม่ได้ต้องการให้เราลูบหัวต่อ แต่ถ้าเจ้าของไม่เข้าใจพฤติกรรมของแมว เจ้าของก็จะเอาความต้องการของตัวเองเป็นที่ตั้ง จะเล่นกับแมว เมื่อตัวเองอยากเล่น โดยไม่สนว่าแมวต้องการเล่นหรือเปล่า
กิจกรรมนี้สะท้อนให้ว่า เราไม่ได้มองสัตว์เป็นแค่ object หรือสิ่งของที่เรามีอำนาจเหนือกว่า แต่มองว่าสัตว์เลี้ยงมีชีวิตจิตใจ หรือจิตวิญญาณที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ สัตว์เลี้ยงมีสิทธิ์ที่จะเลือกหรือตัดสินใจในแบบที่เขาต้องการ
| คุณได้เรียนรู้อะไรจากสัตว์เลี้ยงบ้างไหม หลังจากที่ใช้ชีวิตมาด้วยกัน
จุ๊บ : เราไม่เคยรู้เลยว่า ตัวเองมีศักยภาพในการรักขนาดไหน จนกระทั่งเราได้เลี้ยงสัตว์สักตัว จึงรู้ว่าเราสามารถรักอย่างไม่มีเงื่อนไข หรือแม้กระทั่งเรื่องความสูญเสีย หลายคนที่ผ่านการสูญเสียอาจจะรู้สึกว่า ไม่อยากรักแล้ว เพราะสุดท้ายจะเสียใจ แต่จริงๆ แล้ว เราสามารถเรียนรู้และเติบโตจากการสูญเสียได้ นำไปสู่การดูแลสัตว์เลี้ยงตัวถัดไปให้ดีขึ้น อยากให้หัวใจของทุกคนเปิดกว้าง และมอบความรักให้กับสัตว์ตัวอื่นๆ เพราะยังมีสัตว์อีกมากมายที่รอความรักจากเราอยู่ เช่น หมาแมวจร
คุณได้เรียนรู้อะไรจากสัตว์เลี้ยงบ้างไหม หลังจากที่ใช้ชีวิตมาด้วยกัน
จุ๊บ : เราไม่เคยรู้เลยว่า ตัวเองมีศักยภาพในการรักขนาดไหน จนกระทั่งเราได้เลี้ยงสัตว์สักตัว จึงรู้ว่าเราสามารถรักอย่างไม่มีเงื่อนไข หรือแม้กระทั่งเรื่องความสูญเสีย หลายคนที่ผ่านการสูญเสียอาจจะรู้สึกว่า ไม่อยากรักแล้ว เพราะสุดท้ายจะเสียใจ แต่จริงๆ แล้ว เราสามารถเรียนรู้และเติบโตจากการสูญเสียได้ นำไปสู่การดูแลสัตว์เลี้ยงตัวถัดไปให้ดีขึ้น ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมหนึ่ง แชร์มุมมองไว้ว่า อยากให้หัวใจของทุกคนเปิดกว้าง และมอบความรักให้กับสัตว์ตัวอื่นๆ เพราะยังมีสัตว์อีกมากมายที่รอความรักจากเราอยู่ เช่น หมาแมวจร
กอเตย : เงื่อนไขสุดท้ายคือ ‘ความพร้อมเรื่องเวลา’ เนื่องจากสรรพสัตว์ทุกชีวิตมีเวลามีจำกัด ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นย่อมมีวันหายไป วันหนึ่งมนุษย์และสัตว์เลี้ยงต้องพรากจากกันอย่างแน่นอน ต่อให้ดูแลอย่างดีแค่ไหนก็ต้องเตรียมใจ และเตรียมรับมือกับเรื่องนี้
เจ้าของควรทบทวนว่า ในช่วงเวลาอันไม่เป็นนิรันดร์นี้ เราจะใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงแบบไหนให้มีคุณค่าและคุณภาพมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลายคนไม่ค่อยมีเวลาให้สัตว์ เนื่องด้วยการทำงาน ภาระรับผิดชอบต่างๆ แต่ถ้าได้ทบทวนเรื่องนี้ก็จะทำให้เจ้าของให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น
เราไม่รู้หรอกว่า วันหนึ่งน้องจะหายไปจากเราเมื่อไร หรือเราจะตายไปจากน้องเมื่อไร แต่ ณ วันนี้ เวลานี้ เราจะอยู่ด้วยกันแบบไหนให้มีความสุขมากที่สุด ซึ่ง ‘ความรักที่ไร้เงื่อนไข’ ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เรากับสัตว์อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมากขึ้น
หากวันหนึ่งที่รูปลักษณ์น้องเปลี่ยนไป ไม่น่ารักเหมือนเดิม กลายเป็นหมาแมวที่แก่ตัวลง เคลื่อนไหวช้าลง เราจะยังรักน้องอยู่ไหม ดูแลน้องได้ไหม นี่คือสิ่งที่ควรย้อนถามตัวเองก่อนจะเริ่มเลี้ยงสัตว์
| เพจ Pet SOULciety จะช่วยให้เจ้าของผ่านสภาวะความเศร้าจากการสูญเสียได้อย่างไร
กอเตย : ระยะท้ายของมนุษย์กับสัตว์ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง ‘คุณค่าที่ยึดถือ’ แต่สิ่งที่ต่างกันคือ สัตว์พูดไม่ได้ว่า อยากอยู่บ้านหรือไปโรงพยาบาล ซึ่งคนที่บอกแทนสัตว์เลี้ยงได้ คือ เจ้าของที่เลี้ยงดูมาโดยตลอด ต่อให้สื่อสารกันด้วยภาษาไม่ได้ แต่สามารถสื่อสารด้วยใจ เจ้าของจะรู้ว่าสัตว์เลี้ยงของตัวเองยึดถือคุณค่าแบบไหน หรือต้องการอะไร เพื่อให้เจ้าของไม่รักษาเกินความจำเป็น จนทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดความทุกข์ทรมาน
เพจ Pet SOULciety พยายามมอบองค์ความรู้สามเรื่องหลัก ได้แก่ การสังเกตระยะสุดท้ายของสัตว์เลี้ยง การดูแลสัตว์เลี้ยงที่เจ็บป่วย และการประคับประคองสัตว์เลี้ยงที่เข้าสู่ระยะสุดท้าย โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสัตว์เลี้ยงแบบ Palliative Care อย่าง ‘สพ.ญ. วิลาสินี ภุมรินทร์’ จากโรงพยาบาล i-vet
| เมื่อจักรวาลของเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงไม่ใช่ที่เดียวกัน เจ้าของควรทำอย่างไรให้ตัวเองกลับมาอยู่ในปัจจุบันขณะได้อย่างมีความสุข?
จุ๊บ : แน่นอนว่าคงไม่สามารถกลับมาอยู่ในปัจจุบันในขณะได้ในทันที เพราะความเศร้ามีหลายระยะ ตอนแรกอาจจะเสียใจ หลังจากนั้นอาจจะรู้สึกผิดและโทษตัวเอง แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้กลับมาอยู่ในปัจจุบันขณะได้ดีที่สุดคือ การเฝ้าสังเกตและรับรู้ภาวะอารมณ์ของตัวเอง
เช่น การร้องไห้คือการมองเห็นความรู้สึกของตัวเอง ไม่ปล่อยให้ค้างคาอยู่ในใจ ซึ่งจะทำให้เราได้รับการเยียวยาภายในตัวเอง ส่วนเรื่องระยะเวลาในการเยียวยา เราเองก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ เพราะลูกเพจคนหนึ่ง ไก่ของเขาเสียชีวิตไปเป็นสิบปี แต่ทุกวันนี้ เขาก็ยังคิดถึงอยู่เลย
| การอยู่กับสัตว์เลี้ยง ทำให้เจ้าของกลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะได้อย่างไร
กอเตย : มนุษย์มีความคิดหรือความกังวลค่อนข้างมาก ทำให้มนุษย์ไม่ค่อยอยู่กับปัจจุบัน เพราะนึกถึงอดีต หรือพะวงอนาคต แต่หมาแมวจะอยู่กับปัจจุบันขณะมากๆ น้องไม่รู้หรอกว่า อดีตคืออะไร เมื่อเวลาผ่านไปก็จำไม่ได้แล้ว
ดังนั้น หากหมาแมวทำอะไรผิด แล้วเจ้าของทำโทษ จริงๆ แล้ว หมาแมวไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด เพราะเวลาผ่านไปแล้ว น้องอยู่แค่กับปัจจุบัน ซึ่งธรรมชาติข้อนี้ของสัตว์เลี้ยงก็กลับมาสอนมนุษย์ว่า เราอยู่อย่างมีความสุขได้ด้วยการอยู่กับปัจจุบัน ณ วินาทีนี้ ส่วนอดีตที่ผ่านไปแล้ว ก็ปล่อยให้มันผ่านไป
สิ่งหนึ่งที่อยากบอกทุกคนคือ ไม่ว่าในอดีต คุณจะเคยผิดพลาดเรื่องการเลี้ยงดูหมาแมว หรือมีความรู้สึกผิด คิดว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้องจากไป แต่ทุกอย่างเป็นอดีตไปแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และตัวคุณเองในตอนนั้นก็ทำเต็มที่อย่างดีที่สุดแล้ว หรือหากใครที่ยังมีน้องหมาแมวอยู่ตรงหน้า เราอยากให้โฟกัสกับปัจจุบันที่อยู่ด้วยกัน และใช้เวลาที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าและหมดจดที่สุด
ในทางกลับกัน อยากให้พึงระลึกไว้เสมอว่า ปัจจุบันมีแค่วินาทีนี้ แล้วมันจะผ่านพ้นไป ซึ่งเวลาจะถูกลดทอนลงไปทุกวัน วันหนึ่งอาจต้องเผชิญกับสิ่งที่แปรเปลี่ยนไป ดังนั้น จึงควรเตรียมรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคตไว้ด้วย ซึ่งจะทำให้เรากลับมาเห็นความสำคัญของปัจจุบันมากที่สุด
ปลา : อาการของสัตว์เลี้ยงในระยะท้ายจะไม่ค่อยคงที่ บางวันดีขึ้น บางวันแย่ลง เจ้าของจะมีความกังวลล่วงหน้าต่ออนาคต จนมองไม่เห็นความสุขที่อยู่ตรงหน้า แต่จริงๆ แล้ว ถ้าวันนี้ ณ ปัจจุบัน น้องยังมีความสุขที่ได้อยู่กับเราก็เพียงพอแล้ว ไม่อยากให้ทุกคนพลาดวินาทีที่มีค่านี้ไป
| ก่อนจะจากกัน Pet SOULciety ทำอะไรบ้างในงาน
10 ปีทูนหัวของบ่าว Presented by Next Combo?
จุ๊บ : ในงานนี้ เพจ Pet SOULciety จัด 2 กิจกรรมคือ เวิร์กชอป ‘เตรียมตัวเตรียมใจยังไง? ถ้าต้องส่งน้องหมาน้องแมวกลับดาว’ ซึ่งได้รับเกียรติจากสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการดูแลสัตว์เลี้ยงแบบ Palliative Care สพ.ญ. วิลาสินี ภุมรินทร์ จากโรงพยาบาล i-vet มาเป็นวิทยากรที่ช่วยมอบองค์ความรู้เรื่องการดูแลประคับประคองสัตว์เลี้ยง ส่วนอีกพาร์ตในเวิร์กชอปจะชวนเจ้าของมาทบทวนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง ผ่านเครื่องมือ ‘Pet Friendship สมุดฝากรักสัตว์เลี้ยง’
อีกทั้งยังมีกิจกรรม ‘Hand written greeting card’ ที่บูธของ Pet SOULciety โดยทุกคนจะได้เขียนการ์ดและวาดรูปสัตว์เลี้ยงร่วมกับ ‘น้ำตาล’ ศิลปินจาก Studio Cantalove เพื่อสื่อสารความรักที่ตัวเองมีต่อสัตว์เลี้ยงผ่านข้อความและรูปภาพ อยากชวนเหล่าคนรักสัตว์มาร่วมงาน 10 ปีทูนหัวของบ่าว วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ สามย่านมิตรทาวน์ ฮอลล์
พูดคุยกับ คุณนุ้ย-ดร.ปรีชญา ชวลิตธำรง General Manager 10DK และ คุณชื่น-ชื่นกมล อบอาย Head of 10DK Home Tidying Department ตัวแทนจากทีม 10DK Home Tidying
The Present Move ชวนคุยกับ พีช-พัชณาพร วิมลสาระวงค์ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อของ ‘Peachful’ ศิลปินนักวาดภาพประกอบเจ้าของลายเส้นสุดน่ารักพร้อมด้วยนัยที่แฝงไปด้วยการฮีลใจ และ แมค-ณัฐพงศ์ วิวัฒนะประเสริฐ ผู้ร่วมก่อตั้ง ‘Peachful : Peace of mind’
ถ้าเราถามไป หลายคนคงตอบในใจไปทันทีเลยว่า ‘เดี๋ยวนี้’ ‘ตอนนี้’ หรือ ‘ก็ปัจจุบันนี้ไง’...