The Present Move

“เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” เหมือนกับทุกวันที่เคยผ่านมา

The Present Move | Mindful Global Citizens

“เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” หรือในภาษาอังกฤษที่ว่า “This too shall pass.” อาจเป็นคำที่เราเคยได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วนตลอดชั่วชีวิตที่ผ่านมา

หลายคนอาจสงสัยว่าวลีนี้มีต้นกำเนิดมาจากคัมภีร์ไบเบิลหรือเปล่า หรือว่าใครเป็นคนกล่าวเอาไว้กันแน่นะ มากไปถึงแก่นแกนของวลีนี้ว่ามีความหมายอย่างไรกันแน่

“เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”
เป็นวลีที่พูดกันมานักต่อนัก และหลากหลายบุคคลอ้างอิงถึง ‘กษัตริย์โซโลมอน’ ผู้ทรงไปด้วยสติปัญญาและอำนาจอันยิ่งใหญ่ ที่ต้องการจะทดสอบเสนาบดีคนสนิทของเขาให้หาสิ่งของที่ดูเหมือนจะหาไม่ได้ในโลกนี้

ซึ่งโจทย์ที่ว่าคือให้หา ‘แหวน’ ที่ทำให้คนที่กำลังมีความสุขอย่างมากล้นในตอนนี้ให้กลับกลายเป็นโศกเศร้าเสียใจ และสำหรับคนที่กำลังโศกเศร้าอยู่ให้กลับกลายเป็นมีความสุขขึ้นมาได้อย่างฉับพลันทันใด

เสนาบดีคนดังกล่าวหาแหวนวงที่ว่าหลายต่อหลายวัน แต่ก็ยังไม่พบ

จนกระทั่งในวันหนึ่งเขาได้ไปที่ตรอกซอกซอยหนึ่งในนครเยรูซาเล็ม และบังเอิญไปพบกับชายคนหนึ่งที่กำลังขายเครื่องประดับโลหะ

ทันใดนั้น เขาก็ได้พบกับแหวนทองเกลี้ยงวงหนึ่ง

ที่สลักตัวอักษรอย่างบรรจงว่า “This too shall pass.”

และแหวนวงนี้ก็มีคุณสมบัติตรงตามที่พระราชาต้องการทุกประการ วินาทีนั้นเขาจึงเข้าใจสิ่งที่พระราชาต้องการจะสื่อขึ้นมาอย่างทันทีทันใด

“เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”
ทั้งอะไรที่ดี
และสิ่งใดที่ร้าย

ลองไตร่ตรองถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เพื่อรู้และทำความเข้าใจว่าสภาวะที่คุณกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ มันจะไม่ได้คงอยู่แบบนี้ตลอดไป

เพราะใดๆ โลกล้วน ‘ชั่วคราว’

Writer | ภาพตะวัน 

Illustrator | Arunnoon

เดินสำรวจเมือง ทำกิจกรรมสนุกๆ สูดอากาศดีๆ มีปฏิสัมพันธ์กับคนใหม่ๆ

มาใช้วันลาไปพักร้อนกันเถอะ! ชวนมองข้อดีของการหาเวลาออกไปเที่ยวที่ช่วยบูสต์พลัง แถมยังทำให้เราไม่แก่ก่อนวัย

Very Demure, Very Mindful สงบ สง่า อย่างมีสติ เราเรียนรู้อะไรได้บ้างจากเทรนด์ไวรัลนี้

ใครที่เล่น TikTok ช่วงเดือนที่ผ่านมา น่าจะผ่านตาคลิปวิดีโอสาวผิวสี ผมบลอนด์ ที่ออกมาแนะนำการวางตัวของสาวยุคใหม่ จนกลายเป็นไวรัลที่มีคนนำไปแชร์ต่อกันอย่างแพร่หลาย