
Lagom ปรัชญาว่าด้วยทางสายกลางที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป เพราะความ ‘พอดี’ นั้นดีที่สุด
เพราะความพอดีอาจไม่ได้มีหน้าตาที่ตายตัวแต่เป็นความรู้สึกที่เราย่อมสัมผัสกับมันได้เมื่อเกิดความพอดีที่แท้จริง
วันนี้ฉันจะรวย!
(แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นเศรษฐีไม่เป็นไร
งวดหน้าเอาใหม่)
ข้างต้นนี้อาจเป็นประโยคที่ใครหลายคนคิดหรือพูดกับคนรอบข้างอยู่บ่อยๆ เมื่อวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือนเวียนมาถึง เพราะสองวันนี้เป็นวันสำคัญที่เหล่านักเสี่ยงโชคจะได้ลุ้นว่าเราจะ ‘ถูกรางวัล’ หรือไม่
การเล่นลอตเตอรี่เรียกได้ว่าเป็นความสุขง่ายๆ ที่ช่วยฮีลหัวใจได้ในวันที่เหนื่อยล้า
เป็นทั้งความสนุกที่จะได้ตีความจากตัวเลขที่หลากหลายตั้งแต่วันเกิด วันตาย และความฝัน หรือกระทั่งเป็นความตื่นเต้นและความลุ้นในช่วงที่กำลังอยู่ในโค้งสุดท้ายของการประกาศรางวัลที่คอยได้ลุ้นว่าผู้โชคดีคนนั้นจะเป็นเราหรือไม่
ซึ่งนอกเหนือไปจากความหวังว่าเราอาจกลายเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืนแล้วนั้น อาการว่าด้วย ‘การลุ้น’ ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกอรรถรสหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเมื่อเราได้ลองสุ่มเล่นลอตเตอรีในแต่ละจังหวะและโอกาส
ในทางจิตวิทยามีปรากฏการณ์หนึ่งที่เรียกว่า ‘Near Miss Effect’ ที่ว่าด้วย ‘การลุ้น’ และ ‘ความเฉียด’ ที่พลาดไปเพียงแค่เล็กน้อย ซึ่งอธิบายเอาไว้ว่าการที่พลาดแบบเฉียดๆ ไปเพียงนิดเดียวนี่แหละที่จะยิ่งส่งผลให้เราอยากจะลองมันอีกสักรอบ อีกสักรอบ และอีกสักรอบไปเรื่อยๆ แม้ว่าแท้ที่จริงแล้วเราอาจจะไม่ได้เฉียดแบบใกล้เคียงขนาดนั้นก็ตาม
นอกเหนือไปจากนั้น แนวคิดว่าด้วยการสุ่มของผลลัพธ์ (random) นั้นยังมองว่า ‘โชค’ (luck) นั้นเป็นตัวแปรที่มีค่าต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา และการพลาดแบบเฉียดๆ นั้นยังอาจตีความได้ว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นสัญญาณที่บอกว่าโชคเหล่านั้นได้เปลี่ยนค่าไป
ooca แพลตฟอร์มจิตวิทยายังนำเสนอถึงผลวิจัยที่น่าสนใจบอกว่า ความรู้สึก ‘เกือบ’ นั้นจะกระตุ้นระบบของสมองให้เรารู้สึกราวกับว่าเรา ‘ทำสำเร็จ’ แล้วแม้ว่าความจริงจะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยก็ตาม และในทางสถิติแล้วอาจเรียกได้ว่าเรามีโอกาสแค่เพียง 1 ใน 1,000 หรืออาจน้อยกว่านั้นเสียด้วยซ้ำ
นอกเหนือไปจากความสนุกเมื่อได้ลุ้นตัวเลขรายปักษ์ในแต่ละเดือน อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือปรากฏการณ์ว่าด้วยการซื้อ ‘กล่องสุ่ม’ ที่ได้รับความนิยมมากในช่วงนี้ ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นการสุ่มตัวเลขเช่นเดียวกับลอตเตอรี แต่ว่าในแง่ของ ‘การลุ้น’ อาจไม่ได้แตกต่างกันนักเท่าไร เพราะว่าความสุขและความสนุกนั้นถูกให้น้ำหนักไปกับช่วงเวลาแห่งการลุ้นและรอคอยเหล่านั้นแล้วเรียบร้อย ซึ่งสุดท้ายแล้วไม่ว่าปลายทางจะเป็นเช่นไรเราก็อาจมีความสุขได้เฉกเช่นเดียวกัน
นอกเหนือจาก ‘โชค’ ในแบบของ ‘luck’ แล้ว เราก็ยังอยากชวนให้ทุกท่านมีความสุขและเอ็นจอยไปกับปัจจุบันขณะผ่านความ ‘โชคดีที่บังเอิญได้ค้นพบ’ แบบ ‘serendipity’ ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะนอกเหนือจากการลุ้นและรอยคอยโชคดีที่จะเข้ามาแล้ว การปล่อยให้ความโชคดีในแบบที่บังเอิญได้ค้นพบนั้นก็อาจเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ที่จะได้ทำให้เราได้พานพบกับความเป็นไปได้ใหม่ๆ จากอะไรๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อชีวิตเราได้เข้าไปมีประสบการณ์และรู้สึก
และไม่ว่าวันนี้เราจะโชคดีมากน้อยเพียงใด มีโชคหรือไม่ หรือจะได้เป็นเศรษฐีในวันไหน เหล่านั้นก็อาจไม่สำคัญเท่ากับการรู้เท่าทันความคาดหวังของเราเอง เราอาจลุ้นให้สนุกๆ เป็นสีสันในชีวิตได้ แต่ก็อาจต้องคอยระมัดระวังไม่ให้ความคาดหวังเหล่านั้นทำงานกับเรามากไปจนกลายเป็นความไม่พอดีที่มากเกิน
เพราะความพอดีอาจไม่ได้มีหน้าตาที่ตายตัวแต่เป็นความรู้สึกที่เราย่อมสัมผัสกับมันได้เมื่อเกิดความพอดีที่แท้จริง
เคยสงสัยไหมว่าความใจดีที่แสดงออก ไม่ว่าจะจากตัวเราเองหรือจากผู้คนที่เราพบเห็น มาจากใจที่อยากช่วยเหลือจริงๆ หรือเป็นเพียงการแสดงแลกยอดไลก์
“รู้อะไรไม่สู้ รู้งี้” คำพูดนี้คงเป็นอารมณ์ที่ใครหลายคนรู้สึกในสักช่วงหนึ่งของชีวิต เพราะในบางครั้งเราก็เลือกที่จะ ‘ทำ’ หรือ ‘ไม่ทำ’ อะไรสักอย่างลงไป และในท้ายที่สุดเราเองก็กลับมารู้สึก ‘เสียดาย’ กับการตัดสินใจข้างต้นลงไป