
แบกไว้เต็มบ่า ไม่รู้จะพึ่งใคร รู้จักภาวะ Hyper-independence ใจอ่อนล้าเพราะพึ่งพาตัวเองมากเกินไป
ถ้าตอนนี้คุณมีอาการปวดบ่า คอ ไหล่ หากไม่ใช่อาการของออฟฟิศซินโดรม ก็อาจเกิดจากการเป็น ‘เดอะแบก’ ที่คอยแบกรับเรื่องราวปัญหาหรือภาระต่างๆ ไว้จนหนักเต็มบ่า
คุณเคยรู้สึกว่าแม้จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่บางครั้ง
ก็ยังรู้สึกเหมือนเด็กเล็กๆ ที่ต้องการความรัก
และความสนใจไหม?
ต้องการความสนใจ
โหยหาความรัก
ชอบทำอะไรคนเดียว
นั่นเป็นเพราะภายในใจของเราอาจมีความเป็นเด็กในตัวหรือ ‘Inner Child’ ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่การเป็นเด็กที่สนุกกับการเล่นอย่างเดียว แต่ยังหมายถึงส่วนหนึ่งของจิตใจที่ยังคงได้รับอิทธิพลจากประสบการณ์วัยเด็ก ซึ่งนั่นมีผลต่อการเป็นตัวเราในปัจจุบัน
คำว่า ‘Inner Child’ หรือ ‘เด็กในตัวเรา’ ในทางจิตวิทยาอธิบายถึงส่วนหนึ่งของจิตใจที่ได้รับอิทธิพลจากวัยเด็ก และส่งผลต่อการใช้ชีวิตในทุกวันนี้ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวเน้นถึงความสำคัญของประสบการณ์ในวัยเยาว์ ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดพฤติกรรม ความคิด และอารมณ์ของเราขณะเติบโต
บทความนี้จะพาคุณสำรวจว่าเพราะเหตุใด Inner Child จึงมีความสำคัญ อะไรคือสิ่งกระตุ้นให้เกิด Inner Child และคุณจะเข้าถึงเด็กในใจในตัวเองเพื่อเริ่มต้นการเยียวยาได้อย่างไร
| เพราะเหตุใด Inner Child ถึงสำคัญ?
แนวคิดเรื่อง Inner Child ถูกนำเสนอครั้งแรกโดยคาร์ล ยุง (Carl Jung) นักจิตบำบัดและนักจิตวิทยาสายจิตวิเคราะห์ ที่มีจุดเริ่มต้นจากการตั้งคำถามเกี่ยวกับการขับเคลื่อนอารมณ์หลายอย่างในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเมื่อเราไม่รู้ตัวถึงการมีอยู่ของมัน
เปรียบเหมือนรากฐานของตัวตนและประสบการณ์วัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นช่วงมีความสุข ความเหงา ความกลัว หรือความเจ็บปวด ทุกเรื่องราวล้วนมีส่วนในการหล่อหลอมให้เราเป็นเราในวันนี้
หากคุณรู้สึกถึงการมีอยู่ของ Inner Child จะช่วยให้คุณจัดการอารมณ์และพฤติกรรมได้อย่างมาก เช่น การต้องการความรัก ต้องการการยอมรับมากเกินไป กลัวการถูกปฏิเสธ การระเบิดอารมณ์ หรือกลัวโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งอาจมีต้นตอจากประสบการณ์ในวัยเด็กที่ยังไม่ได้รับการเยียวยา
| องค์ประกอบที่ทำให้เกิด Inner Child
มีหลายแง่มุมที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ในวัยเด็ก ความรู้สึก
และความต้องการที่ยังไม่สมบูรณ์ ยกตัวอย่างเช่น
| Inner Child สามารถแสดงออกได้หลากหลายรูปแบบ
ในชีวิตประจำวัน ซึ่งในบางครั้งเองเราอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เช่น
| อะไรที่กระตุ้น Inner Child ของเรา?
สิ่งที่กระตุ้น Inner Child ของเรามักเป็นประสบการณ์ในวัยเด็กที่สร้างบาดแผลทางจิตใจ ทั้งการถูกแกล้งหรือดูถูก ทำให้ขาดความมั่นใจ และกลัวการถูกปฏิเสธ เมื่อโตขึ้นเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกัน อาจกระตุ้นให้บาดแผลเหล่านั้นกลับมาอีกครั้ง ทำให้รู้สึกเจ็บปวดและไม่มั่นคงในความสัมพันธ์กับผู้อื่น นั่นจึงทำให้ใครที่เคยถูกทอดทิ้งตอนเด็ก อาจกลัวการถูกทิ้งในความสัมพันธ์ หรือใครที่เคยถูกหัวเราะเยาะ อาจกลัวการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นของตัวเอง
หรือเรื่องใกล้ตัวอย่างการไปทำงานสาย อาจทำให้บางคนรู้สึกวิตกกังวลเกินเหตุ กลัวว่าจะถูกตำหนิ ถูกดุด่า หรือถูกไล่ออก แม้ว่าปกติจะเข้าทำงานตรงเวลาและได้รับคำชมเสมอ ความกังวลนี้อาจเกิดจากการเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ไม่มั่นคง ซึ่งเขาเคยถูกตำหนิหรือถูกทำร้ายร่างกายเพียงเพราะความผิดพลาดเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม Inner Child เป็นเหมือนเหรียญ 2 ด้าน ไม่ได้มีผลเชิงลบหรือเต็มไปด้วยความไม่พอใจเท่านั้น แต่ยังมีด้านสว่างที่เต็มไปด้วยความสุข ความมีชีวิตชีวา ความสนุกสนาน และความตื่นเต้นได้อีกด้วย เช่น ความอยากรู้อยากเห็นและความตื่นเต้นที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การใช้ความคิดสร้างสรรค์หรือจินตนาการเพื่อแก้ปัญหาหรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการมีความสุขกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการหัวเราะ หรือการใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติเพื่อแสวงหาความสงบสุขในชีวิต
| การตระหนักรู้ถึง Inner Child มีความสำคัญอย่างยิ่ง
เพราะช่วยให้เราเข้าใจที่มาของพฤติกรรมหรืออารมณ์ที่อาจดูไม่สมเหตุสมผลในบางครั้ง การดูแลและเยียวยา ‘เด็กในตัวเรา’ ช่วยให้เราเข้าใจตัวเอง รับมือกับปัญหาทางอารมณ์และความสัมพันธ์ได้ดีขึ้น เช่น การจัดการกับความเจ็บปวดในอดีต การเสริมสร้างความมั่นใจในตนเอง
และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับผู้อื่น
| เมื่อเราเข้าใจ Inner Child แล้ว การเยียวยาบาดแผลในใจก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ยกตัวอย่างเช่น
หากคุณต้องการทำความเข้าใจ Inner Child ของตัวเอง อาจเริ่มต้นจากการเขียนบันทึกเกี่ยวกับความรู้สึกและประสบการณ์ในวัยเด็ก เพื่อทำความรู้จักตัวเองในมุมที่ต่างไป และทำสมาธิเพื่อเชื่อมต่ออารมณ์ ความรู้สึกที่อยู่ภายในเพื่อปล่อยวางความคิดที่ไม่จำเป็น
ต้องบอกว่า การเยียวยา Inner Child เป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่รีบร้อน ไม่ควรกดดันตัวเอง แค่เริ่มจากการสังเกตตัวเองและทำในสิ่งที่คุณรู้สึกดีก็พอ
ทั้งนี้ Inner Child เป็นส่วนหนึ่งของตัวตนที่สำคัญมาก การทำความเข้าใจและดูแล Inner Child ช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น หากคุณรู้สึกว่า Inner Child ของคุณกำลังส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของคุณ การขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน
Writer | เพ็ญทิพา ทองคำเภา
Illustrator | Arunnoon
ถ้าตอนนี้คุณมีอาการปวดบ่า คอ ไหล่ หากไม่ใช่อาการของออฟฟิศซินโดรม ก็อาจเกิดจากการเป็น ‘เดอะแบก’ ที่คอยแบกรับเรื่องราวปัญหาหรือภาระต่างๆ ไว้จนหนักเต็มบ่า
‘ความเศร้า’ อาจถูกมองว่าเป็นด้านตรงข้ามกับ ‘ความสุข’ คล้ายกับว่าไม่ขาวก็ดำ ไม่คว่ำก็หงาย ไม่ซ้ายก็ขวา แต่สิ่งต่างๆ เหล่านั้น หากลองคิดพิจารณาให้ดีแล้วจะค้นพบว่าทั้งหมดทั้งมวลนั้นคือเรื่องเดียวกันทั้งหมด
ความยืดหยุ่น (Resilience) มักเป็นคำที่เราได้ยินกันอยู่บ่อยครั้ง แต่อาจด้วยความที่ดูนามธรรม เลยทำให้เราคิดภาพตามไม่ค่อยออกว่าตกลงแล้ว ‘ความยืดหยุ่น’ ที่ว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร