The Present Move

ความไม่สมบูรณ์แบบ คือ บทเรียนชีวิต

The Present Move | Mindful Global Citizens

ใครๆ ก็เคยพลาด

เคยไหม ที่กำลังรีบกินข้าวเช้า แล้วเผลอกัดลิ้นตัวเองจนเจ็บแสบ หรือในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เรามักจะเผชิญกับความแตกต่างที่ทำให้เกิดการเปรียบเทียบตัวเอง เช่น ในที่ทำงาน บางครั้งเราอาจรู้สึกไม่มั่นใจเมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานประสบความสำเร็จมากกว่า หรือเห็นเขาทำได้ดีกว่า ซึ่งอาจทำให้เรารู้สึกท้อแท้และหมดกำลังใจได้ง่ายๆ 

แต่แท้จริงแล้ว มนุษย์ทุกคนล้วนไม่สมบูรณ์แบบ การทำผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทำอะไร หรือเก่งแค่ไหนก็ตาม

นั่นก็เพราะมนุษย์เราเต็มไปด้วยอารมณ์ ความคิด และความรู้สึกที่ซับซ้อน ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจและการกระทำ ร่างกายที่ไม่สมบูรณ์แบบ บวกกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ไม่ว่าจะเป็นความคาดหวังทั้งจากตัวเองและผู้อื่นอาจเป็นแรงผลักดันหรือแรงกดดัน ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า ความผิดพลาดคือส่วนหนึ่งของความเป็นมนุษย์ที่เราควรเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และอยู่ร่วมกัน

ความไม่สมบูรณ์แบบอาจเป็นสิ่งที่หลายคนมองว่าเป็นจุดอ่อน แต่ในอีกมุมหนึ่ง ความผิดพลาดเป็นบทเรียนและโอกาสที่มีคุณค่า หากเรามองอย่างเข้าใจและเปิดใจยอมรับ เช่น ความผิดพลาดเป็นโอกาสในการเรียนรู้ และเป็นครูที่ดีที่สุด ที่เปิดโอกาสให้เราได้ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น หากมองว่าทุกความผิดพลาดคือบทเรียน ก็จะพบว่าไม่มีอะไรเสียเปล่า

หรือแม้แต่ในเรื่องความสัมพันธ์ เมื่อเรายอมรับและขอโทษต่อความผิดพลาดของตัวเอง เป็นการแสดงถึงความจริงใจและความรับผิดชอบ ช่วยสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับคนอื่นๆ

| อย่ายึดติดกับความสมบูรณ์แบบ

ความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ทุกคนต้องเผชิญ ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย หากวันหนึ่งคุณพบว่าตัวเองทำพลาดไปสักครั้ง และถ้าคุณให้อภัยกับความผิดพลาดผู้อื่นได้ ทำไมถึงไม่ลองให้อภัยตัวเองบ้าง

แน่นอนว่า การทำพลาดอาจนำมาซึ่งความเสียใจและผิดหวัง โดยเฉพาะเมื่อเรื่องนั้นกระทบต่อผู้อื่นหรือเกี่ยวข้องกับงานสำคัญ แต่สิ่งที่ควรจำไว้คือ ไม่มีใครหรืออะไรในโลกนี้ที่สมบูรณ์แบบ ความผิดพลาดคือสิ่งธรรมดาที่ทุกคนล้วนต้องพบเจอในช่วงหนึ่งของชีวิต

แทนที่จะจมอยู่กับความรู้สึกผิด ลองตั้งสติ หายใจลึกๆ และยอมรับความจริงว่า เราไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบได้ การเรียนรู้ที่จะปล่อยวางและก้าวข้ามความผิดพลาด จะช่วยให้เราเดินหน้าต่อไปด้วยจิตใจที่สงบและพร้อมเผชิญกับสิ่งใหม่ๆ อย่างมั่นคง

| ก้าวข้ามความผิดพลาดด้วยการยอมรับความจริง

การยอมรับว่าทำพลาดเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการก้าวข้ามความรู้สึกแย่ๆ แม้จะเป็นเรื่องยากในช่วงแรก แต่การยอมรับและลงมือแก้ไข คือวิธีที่จะเปลี่ยนสถานการณ์ให้กลับมาดีขึ้น ความรับผิดชอบที่แสดงออกอย่างจริงใจ ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหา แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพอีกด้วย

การมองย้อนกลับไปเพื่อโทษตัวเองไม่ได้ช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น ตรงกันข้าม มันอาจฉุดรั้งไม่ให้เราก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่ ทางที่ดีคือ การตั้งสติ มองหาวิธีแก้ไข และนำบทเรียนจากสิ่งที่เกิดขึ้นไปปรับปรุงในอนาคต 

| หาทางออก

บางครั้งการรับผิดชอบต่อความผิดก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริง ทว่า การหาทางออกหรือวิธีแก้ไขต่างหากที่ช่วยบรรเทาความผิดพลาดนั้นได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการยอมรับความผิดพลาดอย่างตรงไปตรงมา และแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยการเสนอทางเลือกในการแก้ไขปัญหาไปพร้อมกัน

เพราะเหตุใดจึงต้องเสนอทางเลือก?

การเสนอทางเลือกนั้น แสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้เพียงแค่ยอมรับว่าทำผิด แต่ยังคิดหาทางแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง และการมีทางเลือกให้เจ้านายหรือผู้เกี่ยวข้องพิจารณา จะช่วยให้พวกเขาสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และอาจช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากความผิดพลาดได้ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นในการแก้ไขปัญหาจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวคุณเอง

| มนุษย์ทุกคนล้วนเต็มไปด้วยข้อบกพร่องและความผิดพลาด

ไม่ว่าคุณจะพยายามสมบูรณ์แบบเพียงใด ความไม่สมบูรณ์แบบคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในชีวิตประจำวัน ความไม่สมบูรณ์แบบช่วยให้เราได้เรียนรู้ พัฒนา และเติบโต ความผิดพลาดไม่ใช่เพียงแค่ความล้มเหลว แต่คือครูที่มอบบทเรียนอันมีค่าให้กับเรา 

เมื่อเรามองความผิดพลาดเป็นโอกาส ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น แต่ยังสามารถเสริมสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นให้แน่นแฟ้นขึ้น โดยการยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบในตัวเราและในคนรอบข้าง เราจะสามารถเดินหน้าไปสู่ชีวิตที่มีความหมายและยั่งยืนมากขึ้น เพราะความผิดพลาดไม่ใช่สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้และการเติบโตที่ไม่สิ้นสุด

ท้ายที่สุดแล้ว ความไม่สมบูรณ์แบบคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างและมีคุณค่าในแบบของตัวเอง มันไม่ใช่ข้อด้อย หากแต่เป็นโอกาสให้เราได้เข้าใจตนเองและโลกใบนี้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

CBT Cognitive Behavioral Therapy การบำบัดที่ใช้ปัจจุบันขณะเป็นสิ่งเยียวยา

เคยรู้สึกบางอย่างแล้วพูดออกมาไม่ได้ไหม? สิ่งเหล่านั้นอาจเกิดจากว่าเราไม่อาจยอมรับความรู้สึกตัวเอง ไม่รู้ว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่กันแน่ หรือกระทั่งรู้ไม่เท่าทันกับความคิดบางอย่าง

Introvert ก็ไม่ใช่ Extrovert ก็ไม่เชิง หรือเราจะเป็น ‘Ambivert’ มนุษย์ที่อยู่ตรงกลางระหว่างความเงียบสงบและแสงสีเสียง

เคยรู้สึกสับสนไหมว่าตัวเองเป็นคนแบบไหนกันแน่นะ จะอินโทรเวิร์ตก็ไม่ใช่ จะเอ็กซ์โทรเวิร์ตก็ไม่เชิง เพราะบางทีก็ชอบอยู่คนเดียวเงียบๆ แต่บางทีก็อยากออกไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูง หรืออาจจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน?

Personal Boundary มีสติในความสัมพันธ์ เพื่อพื้นที่ของฉันและพื้นที่ของเธอ

สำหรับบางคน เราอาจพัฒนาความสัมพันธ์เป็นเพื่อนสนิท คนรู้ใจ คนที่เราอยากเก็บพวกเขาไว้ในชีวิต แต่ถึงกระนั้น ช่องว่างระหว่างกันก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้แต่ละคนเติบโตต่อไปได้ เปรียบดังต้นไม้ใหญ่ที่เว้นช่องว่างระหว่างกัน