
เดินสำรวจเมือง ทำกิจกรรมสนุกๆ สูดอากาศดีๆ มีปฏิสัมพันธ์กับคนใหม่ๆ
มาใช้วันลาไปพักร้อนกันเถอะ! ชวนมองข้อดีของการหาเวลาออกไปเที่ยวที่ช่วยบูสต์พลัง แถมยังทำให้เราไม่แก่ก่อนวัย
อ่อนโยนกับตัวเองหน่อยนะ
หลายคนอาจรู้สึกว่านี่เป็นประโยคที่พูดง่าย
แต่ทำยากเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะในโลกที่ทุกคนกำลังวิ่งตามความสำเร็จและมาตรฐานบางอย่าง
หลายคนเติบโตมาในสังคมที่ฝังรากลึกด้วยระบบคิด
ที่ตีกรอบให้เราต้องทำตามกันไป โดยไม่เคยตั้งคำถาม
มีแต่คนบอกให้ทำอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ มันจะดีกับเราที่สุด
เรื่อง ‘เพศ’ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และเป็นเรื่องใหญ่
เด็กชายห้ามชอบสีชมพู เด็กหญิงต้องเล่นตุ๊กตา
เด็กหนุ่มห้ามใส่กระโปรง เด็กสาวตัดผมสั้นรองทรงไม่ได้
ผู้ชายต้องมาดแมน ผู้หญิงต้องอ่อนหวาน
มายาคติเหล่านี้อาจฟังดูล้าหลัง ในโลกที่โอบรับความหลากหลายได้มากขึ้น
แต่ก็มีบางคนที่ต้องฟังประโยคเหล่านี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
และหลายครั้ง กรอบคิดเหล่านี้ทำให้เราตีตัวออกห่างจากความต้องการในใจ
หากคิดจะ ‘เป็น’ หรือ ‘ทำ’ สิ่งที่มันผิดไปจากกรอบ ฉันคือสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด จะโดนเพื่อนล้อ โดนพ่อแม่ดุ หลายคนคิดแบบนั้น
เดือนแห่งความหลากหลายทางเพศปีนี้
เราอยากชวนทุกคนที่เคยถูกบูลลี่
ถูกว่ากล่าว กดดัน จนไม่ชอบตัวเองไปช่วงใหญ่
เพียงเพราะตัวตนข้างในของเราไม่ตรงกับกรอบเพศที่สังคมกำหนด
มาเรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเองอย่างเข้าใจ อ่อนโยนกับตัวเอง
และเป็นตัวของตัวเองทุกวันได้อย่างทรงพลัง
| เรียนรู้ว่าทุกคนไม่ได้มีหัวใจที่เปิดกว้าง
หากคุณเคยเป็นคนที่ถูกบุลลี่
เพราะอัตลักษณ์ทางเพศ
ไม่ว่าในรั้วบ้าน โรงเรียน และโลกออนไลน์
แน่นอนล่ะ บางทีเราอาจจะคิดว่าคนที่บุลลี่เราสมควรโดนตอกกลับบ้าง
แต่คนบางคนก็ไม่ได้มีหัวใจที่เปิดกว้าง และบางทีเขาอาจมีประเด็นทางจิตใจบางอย่าง
ทำให้อยากหยิบเรื่องอ่อนไหวอย่างเรื่องเพศมาล้อเลียน (แบบผิดๆ)
หนทางที่ดีที่สุดในการหยุดการบุลลี่ คือไม่ตอบโต้ ไม่ส่งต่อพลังงานแย่ๆ
ย้ำกับตัวเองว่า ‘สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราไม่ได้นิยามคุณค่าของตัวเรา’
และถ้าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากคนที่เข้าใจเรา
| เรียนรู้ว่าเราดีพอแล้ว
ในสังคมที่บอกให้เราทำอย่างนั้น เป็นอย่างนี้
ผู้ชายห้ามออกสาว ผู้หญิงห้ามคบผู้หญิงเป็นแฟน
มันง่ายมากเลยที่เราจะรู้สึกว่าตัวเอง ‘ไม่ดีพอ’ อยู่ตลอดเวลา
หลายครั้ง เราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้ใช้ชีวิตของตัวเองอย่างแท้จริง
แต่ตอนนี้ เรามาปล่อยกันเถอะ
ปลดปล่อยตัวเองจากความคาดหวังของสังคม
ปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการมากมายที่เราไม่ได้ร้องขอ
สูดหายใจลึกๆ แล้วบอกกับตัวเองว่าเราดีพอแล้ว ไม่ว่าเราจะเป็นอะไร
พูดประโยคนี้กับตัวเองได้บ่อยจนกว่าจะพอใจเลย
| เรียนรู้ว่ามีสังคมและคนที่รักเราอยู่
หลายคนอาจมีประสบการณ์ไม่ดีกับการเป็น LGBTQ+
ของตัวเองในวัยเด็ก
ด้วยเพื่อน ครอบครัว โรงเรียน สังคมรอบข้าง
ข่าวดีก็คือ โลกของเรากว้างกว่านั้นมาก
ทุกครั้งที่เรารู้สึกเหงา โดดเดี่ยว อยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใครเข้าใจ
เชื่อเถอะว่าจริงๆ แล้ว ข้างนอกนั้น มีคนพร้อมที่จะโอบรับและเข้าใจเราอยู่
เพียงแต่ตอนนี้เราแค่ยังไม่เจอพวกเขาเท่านั้นเอง
ข่าวดีก็คือ โลกของเรากว้างกว่านั้นมาก
ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีรันทุกอย่าง
ลองแสวงหาคนที่สนใจอะไรเหมือนๆ กันในอินเทอร์เน็ต
ฟังเพลงแนวเดียวกัน ดูซีรีส์ตอนเดียวกัน
หรือแม้แต่ชุมชนคนที่นิยามอัตลักษณ์ทางเพศเหมือนกัน
เชื่อเถอะว่าคนที่เป็น ‘พวก’ หรือ ‘tribe’ ของ เรานั้นหาได้อย่างง่ายดายกว่าที่คิด
แล้ววันหนึ่ง พวกเขาจะมาย้ำกับเราว่า การเป็นตัวเรานั้นดีพอแล้วจริงๆ
สุดท้ายแล้ว นอกจากวิธีเหล่านี้
สิ่งที่เราอยากย้ำคือ อ่อนโยนกับตัวเองหน่อยนะ
ในวันที่คนรอบข้างบอกให้เราทำหรือเป็นอะไร
ยึดมั่นกับแกนข้างในของตัวเองไว้ รับรู้ตัวว่าตัวเองเป็นใคร
และซื่อตรงต่อสีสันภายในตัวเอง
อ่อนโยนกับตัวเองหน่อยนะ
เพราะโลกนี้ยังพื้นที่ให้กับเรา
เพราะโลกยังมีพื้นที่ให้กับความแตกต่างหลากหลาย
เพราะความแตกต่างหลากหลายนั้นคือสิ่งจำเป็นและงดงาม
มาใช้วันลาไปพักร้อนกันเถอะ! ชวนมองข้อดีของการหาเวลาออกไปเที่ยวที่ช่วยบูสต์พลัง แถมยังทำให้เราไม่แก่ก่อนวัย
เพราะคำว่า ‘ชีวิต’ เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของเราๆ และ ‘งาน’ เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น หาใช่ทั้งหมด
เคยไหม? ตื่นเช้ามาแล้วออกจากบ้านไปทำงานด้วยเอเนอร์จี้ที่ว่าฉันคือนางเอกในซีรีส์และเชื่อว่าวันนี้จะเป็นวันที่ดี หรืออาจเคยนึกภาพตัวเราเองที่โดดเด่นท่ามกลางผู้คนหลากหลาย