The Present Move

Coming of Age การก้าวผ่านวัยที่หัวใจเติบโต

The Present Move | Mindful Global Citizens

‘การเติบโต’ เป็นเรื่องของเด็กๆ เท่านั้นหรือไม่ 

คนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ยังสามารถเติบโตได้อีกหรือเปล่า?

หากการเติบโตเป็นเรื่องของความเปลี่ยนแปลง แน่นอนว่าช่วงวัยที่เห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนที่สุดย่อมเป็นการเปลี่ยนผ่านระหว่างเด็กหรือวัยรุ่น เข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่ เพราะนอกจากความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพแล้ว ก็ยังร่วมถึงความคิดทัศนคติและตัวตนที่เปลี่ยนไป จนมีคำเฉพาะเรียกช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านนี้ว่า Coming of Age

Coming of Age หรือการก้าวผ่านวัย อาจเป็นก้าวแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต เมื่อวัยรุ่นได้เรียนรู้ตนเองผ่านสถานการณ์ต่างๆ ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทัศนคติ ความเชื่อ และตัวตนที่นำไปสู่การเป็นผู้ใหญ่ผ่านบทเรียนต่างๆ ที่เข้ามาทดสอบชีวิตในช่วงเวลานี้ 

สิ่งที่น่าตั้งคำถามก็คือ ในเมื่อความเปลี่ยนแปลงเป็นสัจธรรมของสรรพสิ่งบนโลก จึงมีความเป็นไปได้ว่า การก้าวผ่านวัย อาจไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว แต่อาจเกิดขึ้นหลายครั้งในชั่วชีวิตของเรา เมื่อประสบการณ์บางอย่างที่มีอิทธิพลมากพอที่จะเปลี่ยนทัศนคติ ความคิด และตัวตน เพียงแต่เราอาจไม่ทันตระหนักรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นต่างหาก 

| Coming of Age การก้าวผ่านวัย ที่หัวใจเติบโต

มีหนังสือและภาพยนตร์หลายเรื่องที่ถ่ายทอดการก้าวผ่านวัยที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจผู้ชมหรือผู้อ่าน นั่นอาจเป็นเพราะการก้าวผ่านวัย แสดงให้เห็นถึงภาวะของความท้าทายในชีวิต บางครั้งอาจสูญเสีย เจ็บปวด แต่ก็นำไปสู่การตื่นรู้ที่สร้างตัวตนใหม่ให้กับเรา 

หากจะเปรียบการ Coming of Age เสมือนดักแด้ที่ค่อยๆ ถอดเปลือกออก ก็คงไม่ผิดนัก
เมื่อปีกที่ซ่อนอยู่ภายในค่อยเผยออกมา กระบวนการนี้อาจเจ็บปวดและท้าทาย แต่ก็เต็มไปด้วยความหมาย ในขณะที่ดักแด้ต้องใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อจะได้เป็นผีเสื้อ เราเองก็ต้องผ่านช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง ข้ามผ่านความกลัวและความไม่มั่นคง เพื่อค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเรา กระบวนการนี้คือการทิ้งอดีตไว้เบื้องหลัง เพื่อเปิดโอกาสให้เราได้กางปีกและบินออกสู่โลกกว้างพร้อมความเข้มแข็งและอิสรภาพ

ตัวอย่างของการ Coming of Age อาจเกิดขึ้นหลังจากจบการศึกษา แล้วต้องออกไปทำงานเป็นครั้งแรก บางคนอาจเผชิญกับความรับผิดชอบที่ไม่เคยเจอมาก่อน เช่น การดูแลค่าใช้จ่าย การปรับตัวในที่ทำงานใหม่ และการค้นหาความถนัดในอาชีพการงาน หรือบางคนอาจประสบกับเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเรียนรู้การดูแลครอบครัวหรือคนที่รักในยามยากลำบาก การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้นำไปสู่การตระหนักรู้ตัวตนของเราในรูปแบบใหม่ สำหรับวัยรุ่นที่ก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ การค้นพบนี้อาจเปลี่ยนแปลงตัวตนเราไปตลอดกาล 

ด้วยเหตุนี้เอง การก้าวผ่านวัยของวัยรุ่น จึงมักถูกพูดถึงอยู่เสมอๆ ไม่เพียงเพราะนี่เป็นครั้งแรกของความเปลี่ยนแปลงตัวตนครั้งใหญ่ แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่อาจมีอิทธิพลกับชีวิตอย่างยาวนาน 

| Emerging Adulthood การก้าวผ่าน สู่การเบ่งบานของตัวตน

ในทางจิตวิทยาการ Coming of Age อาจเปรียบได้กับกระบวนการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ตอนต้น (Emerging Adulthood) ซึ่งอาจเกิดขึ้นระหว่างอายุ 18-25 ปี อย่างไรก็ตาม
การกำหนดอายุให้ชัดเจน อาจทำได้ยาก เพราะประสบการณ์ในชีวิตของแต่ละคนเกิดขึ้นต่างช่วงเวลากัน บางคนอาจทำงานมีรายได้เสริมตั้งแต่เรียนมัธยม ทำให้มีความเป็นผู้ใหญ่กว่าวัยเดียวกัน ขณะที่บางคนเรียนจบปริญญาแล้ว แต่เพิ่งเริ่มค้นหาตัวเอง เป็นต้น

ซึ่งกระบวนการเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่ต้องก้าวข้ามความท้าทาย 5 ขั้นตอนที่ทำให้เราได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างเข้มข้น  ดังนี้

  1. การค้นหาตัวตน (Identity) การเริ่มต้นชีวิตการทำงานเป็นครั้งแรกมักทำให้หลายคนได้ตั้งคำถามว่าตัวเองอยากเป็นใครหรือทำอะไรจริงๆ นักศึกษาจบใหม่บางคนอาจเริ่มงานเพื่อลองสิ่งใหม่ๆ และค้นหาความถนัดที่แท้จริง บางคนอาจทำงานในสายที่ตนเรียนมา แต่กลับพบว่า มันไม่ใช่เส้นทางที่พวกเขาอยากเดินไปตลอดชีวิต ช่วงเวลานี้เองคือการทดลอง และค้นหาความต้องการที่แท้จริงของเรา

  2. ความไม่มั่นคง (Instability) เมื่อเปลี่ยนจากรั้วโรงเรียนเป็นมหาวิทยาลัย หรือเปลี่ยนจากวัยเรียนเข้าสู่วัยทำงาน ความเปลี่ยนแปลงนี้อาจมาพร้อมการโยกย้าย ไม่ว่าจะย้ายที่ทำงาน หรือย้ายเมือง ความเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้รู้สึกไม่มั่นคง แต่ในขณะเดียวกันก็สอนให้เรายืดหยุ่นและปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น การเรียนรู้ที่จะอยู่กับความไม่แน่นอนนี้ เป็นบทเรียนที่สำคัญในการเติบโต

  3. การมุ่งเน้นที่ตัวเอง (Being Self-Focused) การเริ่มโฟกัสกับตัวเองอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่นำไปสู่การตื่นรู้ และเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เมื่ออิทธิพลของเพื่อนในวัยรุ่นค่อยๆ ลดน้อยลง  บางคนตั้งใจเรียนต่อ หรือลงทุนในคอร์สพัฒนาทักษะเพื่อเสริมความก้าวหน้าในสายอาชีพ อย่างไรก็ตาม การโฟกัสที่ตัวเองมากเกินไปอาจทำให้เรารู้สึกโดดเดี่ยว การรักษาสมดุลในความสัมพันธ์ที่มาพร้อมกับการพัฒนาตัวเอง จึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในกระบวนการนี้ด้วย

  4. ความรู้สึกไม่แน่ใจในตัวเอง (Feeling In-Between) ตัวตนระหว่างความเป็นเด็กและผู้ใหญ่มักสร้างความสับสน เช่น การต้องจัดการค่าใช้จ่ายเอง ทำงานส่งตัวเองเรียน หรือช่วยค่าใช้จ่ายครอบครัว เป็นการก้าวเข้าสู่ความรับผิดชอบแบบผู้ใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความรู้สึกไม่มั่นใจ หรือไม่พร้อม เพราะยังขาดประสบการณ์ชีวิต การเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่ไม่มั่นคงนี้ ช่วยให้เราเติบโตและเข้าใจความหมายของการเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

  5. โอกาสใหม่ๆ ในชีวิต (New Possibilities)  ช่วงวัยนี้ยังเต็มไปด้วยโอกาสใหม่ๆ ที่เปิดให้เราลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน เช่น พบเพื่อนใหม่ที่มีทัศนคติแตกต่าง หรือการได้เดินทางไปสถานที่ใหม่ๆ ประสบการณ์เหล่านี้เปรียบเสมือนประตูที่พาเราไปเห็นเส้นทางที่หลากหลาย การได้เจอสิ่งใหม่ ช่วยให้เราค้นพบว่า มีความเป็นไปได้มากมายในชีวิต และเราสามารถลองทำสิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะทำได้

    แม้การก้าวผ่านสู่วัยผู้ใหญ่จะต้องเผชิญกับความท้าทาย 5 ข้อดังกล่าว แต่เมื่อผ่านมา ได้เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ก็ไม่ได้หมายความว่าสถานการณ์ใน 5 ข้อข้างต้นจะไม่เกิดขึ้นอีกในชีวิต
    เพราะหากพิจารณาดู สถานการณ์ทั้ง 5 นั้น อาจเกิดขึ้นอีกในช่วงใดของชีวิตก็ได้ แม้จะไม่ครบทั้ง 5 ข้อ แต่หากเกิดขึ้นเพียงข้อเดียว ก็อาจสร้างความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในตัวเราได้ แม้จะผ่านวัย Coming of Age มาแล้วก็ตาม 

| The Never-Ending Self-Discovery การค้นพบตัวตนใหม่
ไม่มีที่สิ้นสุด

การค้นพบตัวตนใหม่จึงมีโอกาสเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงของชีวิต อาจเป็นการตระหนักรู้เรื่องชีวิตและความตาย หรือตระหนักถึงคุณค่าของคนใกล้ตัว ฯลฯ การเติบโตจึงไม่ได้จำกัดแค่ช่วงวัยเด็ก หรือวัยรุ่นเท่านั้น แต่ผู้ใหญ่ที่โตแล้วก็สามารถเติบโตทางจิตวิญญาณ จิตใจ ไปจนถึงการตื่นรู้บางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เราก้าวข้ามปัญหาในชีวิตได้

หากช่วงวัยในชีวิตเป็นเหมือนบทเรียน แต่ละปัญหาคือแบบทดสอบให้เราข้ามผ่าน หากเราสามารถผ่านไปได้ แน่นอนว่าเราย่อมเป็นคนใหม่ที่ต่างไปจากเดิม เช่น เมื่อเราเข้าใจว่า การถูกนอกใจ ไม่ใช่ความผิดของเรา แต่เป็นปัญหาของอีกฝ่ายต่างหาก ย่อมทำให้เราเข้มแข็งขึ้น กระบวนการพัฒนาตัวตนและค้นพบความเป็นไปได้ใหม่ๆ สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ความเปลี่ยนแปลงนี้มักท้าทายและทำให้เรามองลึกลงไปในตัวตน เพื่อค้นหาความหมายในชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง 

เมื่อเข้าสู่วัยกลางคน ความเปลี่ยนแปลงที่พบได้บ่อยคือ เมื่อลูกๆ เริ่มแยกย้ายออกจากบ้าน หรือเมื่อเราต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงในหน้าที่การงาน หลายคนอาจเผชิญการสูญเสียคนรักเป็นครั้งแรก หรือประสบกับความโดดเดี่ยว เมื่อลูกเติบโตออกไป บางคนอาจใช้โอกาสนี้ค้นหาความสนใจใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน หรือตัดสินใจกลับมาเรียนรู้สิ่งที่เคยละทิ้งไว้เมื่อนานมาแล้ว การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การปรับตัว แต่ยังเป็นโอกาสให้เราได้สัมผัสและพัฒนาตัวตนใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจให้เราเผชิญกับอนาคตด้วยความกล้าหาญ 

สุดท้าย การ Coming of Age จึงไม่ใช่เรื่องของวัยใดวัยหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นกระบวนการเติบโตที่เกิดขึ้นในทุกช่วงวัย การเปลี่ยนผ่านเหล่านี้มีความสำคัญ เพราะช่วยให้เราเรียนรู้ที่จะยอมรับตัวเอง ปลดปล่อยความเชื่อเก่า และเปิดรับเส้นทางใหม่ในชีวิต การเติบโตจึงเป็นการเดินทางที่ไม่มีวันสิ้นสุดที่พาเราไปสู่การค้นพบตัวตนในมุมใหม่ๆ และเติมเต็มความหมายให้กับทุกช่วงเวลาของชีวิต

ตัวตนอาจไม่ใช่สิ่งที่ค้นหา แต่เป็นการสร้างขึ้นมา

เคยสงสัยไหม? เพราะอะไรใครต่อใครจึงมักพูดว่า “กำลังค้นหาตัวตน” เราบอกเล่าและกล่าวต่อสิ่งนี้ราวกับว่า ‘ตัว’ และ ‘ตน’ เป็นสิ่งที่เราต้องค้นหา

จากนักเขียน สู่นักจิตวิทยา และบรรณาธิการ ชวนคุยกับ พลอย-สโรชา กิตติสิริพันธุ์ เมื่อความสุขไม่ต้องตามหา และอาจไม่ต้องใช้สายตาเพื่อมองเห็น

ถ้าเรารอให้ประสบความสำเร็จแล้วจึงจะมีความสุข ความสุขในชีวิตเราจะน้อยเกินไปไหม? นี่คือสิ่งที่เราเก็บมาคิด หลังจากได้คุยกับ พลอย-สโรชา กิตติสิริพันธุ์ บรรณาธิการสำนักพิมพ์ผีเสื้อปีกบาง

เลือกสี เฟอร์นิเจอร์ จัดองค์ประกอบ เรื่อง ‘บ้าน’ ที่ไม่ใช่แค่เรื่อง ‘บ้านๆ’ เพราะทุกการจัดวางล้วนส่งผลต่อความรู้สึก

“ถ้าข้าวของในห้องมันอัดแน่นและวางกองเรี่ยราด มันอาจจะส่งเสริมให้เรารู้สึกวิตกกังวล หงุดหงิด และรู้สึกวุ่นวายได้”