The Present Move

ไม่ว่าโชคชะตาหรือฟ้าลิขิต แต่ชีวิตและตัวตนย่อมเป็นสิ่งที่มาบรรจบ

The Present Move | Mindful Global Citizens

‘อินยอน’ คือคำภาษาเกาหลีที่อาจแปลเป็นไทยได้อย่างใกล้เคียงที่สุดกับคำว่า ‘โชคชะตา’
หรือ ‘พรหมลิขิต’ 

My feeling’s getting deeper
내 심박수를 믿어
우리 인연은 깊어
I gotta see the meaning of it!

เชื่อว่าแฟนเพลงเคป๊อปหลายคนอาจเคยฟังเพลง ‘Supernatural’ ของวง NewJeans กันมาบ้าง และแน่นอนว่าท่อนเนื้อเพลงข้างต้นที่กล่าวมานั้น ก็คือหนึ่งในท่อนของเพลงดังกล่าว ซึ่งสำหรับผู้เขียนแล้วนอกเหนือไปจากทำนองเพลงกึ่งๆ City Pop และ K-POP รุ่นราวปี 90s ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่หยอกของเพลงดังกล่าวแล้วนั้น คำว่า ‘อินยอน’ (In-Yeon : 인연) ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกเอกลักษณ์หนึ่งที่ทำให้เพลง Supernatural นี้แฝงฝังไปด้วยคอนเซปต์บางอย่างที่ละเอียดลออจนเราคาดไม่ถึง

หรือหากใครเคยรับชมภาพยนตร์ Past Lives (2023) ภาพยนตร์ดังสัญชาติเกาหลีใต้ จากค่าย A24 ก็อาจรู้สึกคุ้นชินกับ ‘อินยอน’ ก็เป็นได้ เพราะทั้งในภาพยนตร์เรื่องนี้และเนื้อเพลงที่เรายกมาข้างต้นนั้นคือคำคำเดียวกัน

‘อินยอน’ คือคำภาษาเกาหลีที่อาจแปลเป็นไทยได้อย่างใกล้เคียงที่สุดกับคำว่า ‘โชคชะตา’ หรือ ‘พรหมลิขิต’ ซึ่งหมายถึงความเชื่อตามแบบฉบับของคนเกาหลีที่ว่าด้วยการที่มีอะไรบางสิ่งอย่างยึดโยงคนสองคนเข้าไว้ด้วยกันทุกชาติภพ และนั่นอาจไม่ใช่แค่เพียงพรหมลิขิตธรรมดาๆ แต่อาจหมายความไปถึงสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งที่แยกจากกันไม่ขาด ความเชื่อมโยงอันแนบแน่นอย่างลึกซึ้งระหว่างคนทั้งสองนั้นจะเกิดขึ้นตลอดชั่วชีวิตของพวกเขา 

ทั้งนี้ คำว่า ‘อิน’ () หมายถึง “การกระทำจากอดีตและปัจจุบันที่ส่งผลไปถึงยังอนาคต” ส่วน ‘ยอน’ () หมายถึง “พลังจากโชคชะตาที่ช่วยให้ผู้คนได้มาพบกัน” ซึ่งเรียกได้ว่า อินยอนนั้นเป็นความเชื่อที่ได้รับอิทธิพลมาจากพุทธศาสนาที่ได้เผยแพร่เข้าไปยังเกาหลีใต้ตั้งแต่ยังปกครองเป็นอาณาจักร ข้างต้นนี้เป็นความเชื่อที่สอดคล้องกับวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิด และการพบกันต่างๆ มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแยกไม่ขาดจาก ‘กรรม’ ซึ่งก็คือการกระทำที่ทำร่วมกันมาตั้งแต่ในอดีตชาติ

เซลีน ซง (Celine Song) ผู้กำกับและนักเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Past Lives ได้กล่าวว่า “ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการถ่ายทอดเรื่องที่เรียบง่ายของชีวิต ปัจเจกของความเป็นตัวตน พร้อมกันกับทางเลือกในการใช้ชีวิตของคนแต่ละคน” ซึ่งจากภาพยนตร์นั้นยังทำให้เราได้เห็นถึงการเชื่อมโยงจิตวิญญาณตลอดชั่วชีวิตของผู้คน ที่มากไปกว่าแค่สิ่งที่มองเห็น แต่เป็นสายใยสัมพันธ์บางอย่างที่เราเองก็รู้สึกได้ เพราะเราอาจเคยพบเจอกันแล้วในอดีตชาติ และโชคชะตาที่อาจพบเจอและเกิดขึ้นในอนาคต

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ผู้อ่านหลายท่านอาจพอระลึกได้ถึงความรู้สึกบางอย่างจากบางเหตุการณ์ในห้วงความทรงจำ คนที่เคยเดินสวนกันอาจเป็นเนื้อคู่จากอดีตชาติ และสายสัมพันธ์บางอย่างอาจเป็นอะไรที่ผูกพันและฝังรากหยั่งลึกเกินกว่าที่เราจะนึกถึง

แต่ถึงอย่างนั้น การทำปัจจุบันขณะให้ดีที่สุดก็ย่อมเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ดี ไม่ว่าตอนนี้เราจะเจออินยอนของตัวเองแล้วหรือไม่ แต่หากปัจจุบันเป็นผลพวงมาจากการกระทำในอดีต และจะส่งต่อไปยังอนาคตฉันใด การทำทุกวันทุกวินาทีให้ดีกับทุกความสัมพันธ์ ก็อาจเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี เพราะมันจะส่งผลต่อไปยังสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างแน่นอน

Writer | ภาพตะวัน

Illustrator | Arunnoon

Ayatana คาเฟ่สไตล์มินิมอลที่ขยับ ‘ธรรมะ’ ให้โมเดิร์นและใกล้ตัวคนรุ่นใหม่ผ่านการออกแบบประสบการณ์

ความไม่เที่ยง การปล่อยวาง การรู้จักให้ สมาธิ อิสระ และธรรมะ สิ่งเหล่านี้แฝงตัวอยู่รอบๆ...

บันทึกสนทนาฮีลใจและบทเรียนแห่งความสุขจาก ศร-ศวัส เจ้าของเพจ ‘คิดมาก’ นักเขียนที่ใช้ตัวหนังสือเยียวยาจิตใจคนอ่าน

‘ฟ้าไม่เคยมืดเกินมองเห็นดวงดาว’ หรือ ‘โตขึ้นมาเป็นความสุข’ ชื่อหนังสือจากปลายปากกาของ ศร-ศวัส มลสุวรรณ นักเขียนและเจ้าของเพจ ‘คิดมาก’ ที่หลายคนรู้จัก

ใช้ชีวิตวันนี้ มีความสุขวันนี้ ชวนรู้จัก ‘Stoic’ ปรัชญาสามัญประจำบ้าน ที่ชวนให้เราไม่หวั่นไหวแม้มีอะไรมากระทบ

หลายคนอาจเคยได้ยิน ‘ปรัชญาสโตอิค’ (Stoic Philosophy) อย่างหนาหูตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ ว่ากันว่าปรัชญาสายนี้เป็นปรัชญาแห่งความ ‘ช่างแม่ง’ ที่เสนอว่าให้เราสนใจเพียงแค่สิ่งที่เราควบคุมได้ และปล่อยวางกับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้