The Present Move

Morning Pages เพราะการเขียนในตอนเช้า อาจช่วยให้เรามีช่วงเวลาที่ดีได้ทั้งวัน

The Present Move | Mindful Global Citizens

เขาว่ากันว่าช่วงตอนเช้า
เป็นเวลาที่หัวสมองแล่นที่สุด

คุณเห็นด้วยกับคำกล่าวข้างต้นนี้หรือไม่?

ดังคำกล่าวสุภาษิตจีนที่ว่า “นกที่ตื่นเช้า คือนกที่จะได้กินหนอนก่อน และได้กินหนอนมากกว่า”

ที่เปรียบได้กับ ‘คนที่ตื่นเช้า’ มักเป็นคนที่ได้เปรียบในการทำงาน หรือกระทั่งการใช้ชีวิตเองก็ตาม เพราะอาจหมายความว่าคนคนนั้นอาจมี ‘เวลา’ ในแต่ละวันมากกว่าคนอื่นๆ

แต่ในหลายต่อหลายครั้งเมื่อเราตื่นขึ้นมาในยามแสงอรุณยามเช้าเข้ามาทักทาย ก็อาจไม่ได้ทำให้สบายใจเท่าไรนัก เพราะยังคงมีความคิดบางอย่างที่ตกตะกอนอยู่ในสมอง อาจมาจากความฝันที่เข้ามาก่อกวนในยามนอนหลับในค่ำคืน เป็นความกังวลใจในช่วงจังหวะชีวิตนั้นที่เข้ามาทักทายตั้งแต่แวบแรกที่ลืมตา หรืออาจเป็นเพราะความคิดอะไรที่มาจากไหนก็ไม่แน่ใจที่เข้ามาในแต่ละครั้ง

ความคิดตกค้างเหล่านั้นอาจทำลายวันดีๆ ของเราไปได้หากสิ่งต่างๆ เหล่านั้นมันรุนแรงและไม่สามารถออกจากหัวได้

วันนี้เราจึงอยากชวนทุกท่านรู้จักกับ ‘Morning Pages’ หนึ่งในเทคนิควิธีการเขียนชื่อดังที่เป็นที่นิยมของคนทั่วโลก เพื่อเป็นการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่ดีได้อย่างมีความสดใส และไม่มีอะไรตกตะกอนค้างคาใจระหว่างวันอีกต่อไป

| Morning Pages คืออะไร? และเพราะอะไรการเขียนออกมาตอนเช้าจึงเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุด

“Morning Pages เป็นหนึ่งในวิธีการเขียนที่เชื่อมโยงกับกระแสสำนึก (Stream of Conciousness Writing) ซึ่งอาจไม่มีวิธีตายตัวหรือถูกต้องที่สุดในแนวทางการเขียนเช่นนี้ ขอแค่เพียงคุณเขียนอะไรก็ได้ลงไปตลอด 3 หน้า และทำมันเป็นอย่างแรกตั้งแต่ตื่นนอน” 

นี่คือคำนิยามของ ‘Morning Pages’ ที่จูเลีย คาเมรอน (Julia Cameron) ผู้เขียนหนังสือ The Artist’s Way ระบุเอาไว้

เธอยังระบุเพิ่มเติมว่า การเขียนสิ่งนี้ไม่ใช่ศิลปะชั้นสูง มันคือการเขียน ‘อะไรก็ได้’ โดยที่ ‘ไม่ต้องคิด’ ราวกับว่ากระดาษทั้ง 3 แผ่นนั้นคือ ‘พื้นที่ปลอดภัย’ ที่ดีที่สุดของการเขียนระบาย

ยิ่งไปกว่านั้น หลายคนที่เคยลองใช้วิธีนี้ยังระบุว่าการเขียนสิ่งนี้คล้ายกับเป็นการ ‘อาเจียน’ อะไรต่างๆ ออกจากร่างกายก่อนไปสู้กับเช้าวันใหม่อีกด้วย

ทั้งหมดนี้ช่วยกระตุ้น ปลอบโยน เคลียร์สมอง และช่วยทำให้ง่ายต่อการจัดลำดับความสัมพันธ์หรือสิ่งที่ต้องทำในวันนี้ที่จะมาถึง

สาเหตุที่ต้องเป็นช่วงเช้าหลังตื่นนอนก็เพราะว่า เวลานี้จะเป็นเวลาที่สมองและร่างกายเราจะยังไม่ได้รับอะไรใหม่ นั่นจึงกลายเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการที่จะระบายความคิดที่ขมุกขมัวอยู่ในหัวออกก่อนที่จะรับข้อมูล input เข้าไปใหม่ระหว่างวัน

| เขียนตอนตื่นอาจทำให้ชีวิตราบรื่นกว่าที่คิด

วิธีการสำหรับการเขียน Morning Pages นั้นไม่ยาก มีข้อตกลงพื้นฐานเพียงแค่ 2 อย่างเท่านั้น คือ

  1. เขียนด้วย ‘ลายมือ’ : แนวทางปฏิบัติคร่าวๆ ข้อแรกนั้นไม่ยาก ถึงแม้ว่าอาจเป็นสิ่งที่หลายคนอาจไม่คุ้นเคยไปเสียหน่อยในเวลานี้ แต่นี่ก็เป็นโอกาสอันดีที่เราอยากชวนให้คุณกลับมา ‘เขียน’ ด้วยมือ ผ่านลายมือของตัวเองอีกครั้ง เพราะการจับปากกาหรือดินสอคู่ใจเพื่อเขียนลงในกระดาษสมุดเล่มโปรดนั้นจะช่วยให้เราได้กลับมาเชื่อมต่อกับภายในตัวเองได้อย่างจริงใจมากที่สุดวิธีหนึ่ง เพราะเป็นการได้ถ่ายทอดความคิดจากสมองสู่ปลายมือได้อย่างดีที่สุด

  2. เขียนอย่างน้อย 3 หน้า : อาจเป็นจำนวนที่ใครหลายคนตกใจว่าต้องเขียนยาวขนาดนี้เลยหรือ?! แต่สิ่งนี้มันก็มีเหตุผลของมันอยู่ เพราะการเขียนราว 3 หน้าหรือคิดเป็นประมาณ 750 คำนั้นเพราะเป็นจำนวนที่เหมาะเหม็งที่สุดในการได้ปลดปล่อยอารมณ์และความรู้สึกออกมาในช่วงเช้าหลังตื่นนอน และเพราะในช่วงเวลานั้นสมองของเราจะยังไม่ตื่นมาพอในการจะปิดกั้นความคิดอันพรั่งพรูของเราเอง นั่นจึงทำให้เราสามารถ ‘เป็นตัวเอง’ และ ‘ปลดปล่อยความเป็นตัวเอง’ ได้มากที่สุดวิธีหนึ่ง

และสำหรับชาวออฟฟิศอย่างเราๆ นั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการที่สมองปลอดโปร่งก่อนไปทำงานนั้นถือเป็นสิ่งที่เลิศที่สุด เพราะนอกจากเป็นการเตรียมพร้อมให้ไอเดียพุ่งสุดขีดแล้ว อาจทำให้เรามีสติอยู่กับตัวเอง พร้อมลุยกับทุกคนและทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดวันอย่างดีอีกด้วย

Writer | ภาพตะวัน

Illustrator | Arunnoon

Ayatana คาเฟ่สไตล์มินิมอลที่ขยับ ‘ธรรมะ’ ให้โมเดิร์นและใกล้ตัวคนรุ่นใหม่ผ่านการออกแบบประสบการณ์

ความไม่เที่ยง การปล่อยวาง การรู้จักให้ สมาธิ อิสระ และธรรมะ สิ่งเหล่านี้แฝงตัวอยู่รอบๆ...