
Empathy และ Sympathy ต่างกันอย่างไร?
เชื่อว่าหลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า ‘Empathy’ กันมาไม่น้อย โดยเฉพาะพักหลังมาคำนี้ก็ยิ่งทวีคูณการใช้บ่อยๆ ขึ้นในหลากหลายบริบท
หากกล่าวคำว่า ‘Mindfulness’
คุณมักคิดถึงอะไร?
สติสตางค์
การนั่งสมาธิ
ความธรรมะธัมโม
และอื่นๆ อีกมากมาย
ซึ่งคำคำนี้ในหลายบริบทอาจดูนามธรรม เข้าใจยาก จับต้องไม่ได้ หรืออาจรู้สึกราวกับว่าเราต้องเข้ารับการบำบัดใดๆ เพื่อให้เกิด Mindfulness ที่แท้จริงขึ้นมา
แต่ในวันนี้ The Present Move ขอพาทุกท่านมาทบทวนนิยามของคำว่า ‘Mindfulness’ กันอีกครั้งว่ามีความหมายอย่างไร เข้าใจและเข้าถึงยากจริงหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้เข้าใจคำคำนี้ และบริบทการใช้ได้มากขึ้น
“ไม่ใช่เพียงการนั่งสมาธิ แต่หมายถึงการมีชีวิตอย่างตระหนักรู้อยู่กับปัจจุบันขณะ”
นี่อาจเป็นคำนิยามที่ชัดที่สุดของการนิยามคำว่า Mindfulness หากถามกับเรา
เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะเมื่อเราพูดถึงสิ่งเหล่านี้แล้วเรามักจะนึกถึงการนั่งสมาธิ
เพราะว่าการนั่งสมาธิอาจเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้เราได้กลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะ
ด้วยท่าทางที่อาจนั่งยาก การกำหนดลมหายใจที่หากใครไม่ค่อยได้ทำอาจจะทำให้เรารู้สึกว่า Mindfulness เป็นสิ่งที่เข้าถึงยาก
แต่อันที่จริงสิ่งเหล่านี้อาจเป็นความธรรมดาๆ อย่างการตระหนักรู้ว่า ‘ตอนนี้’
เรากำลังทำอะไร
กำลังรู้สึกอะไรอยู่
ภายในอย่าง ‘ความคิด’ และ ‘ความรู้สึก’ ทางร่างกายและจิตใ
สภาพแวดล้อมรอบข้างกำลังทำงานกับเราอย่างไร
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ‘การตระหนักรู้’ และ ‘การยอมรับ’ สภาวะในขณะที่เกิดขึ้นทั้งจากภายในและรอบข้าง
ซึ่งการตระหนักรู้เท่าทันนั้น เป็นสิ่งที่เราอาจไม่เข้าใจเพียงแค่ได้ยินแนวคิดของมันครั้งแรก
แต่อาจเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาและประสบการณ์ชีวิตเข้ามาปรับใช้เพื่อทำความเข้าใจเสียหน่อย
โดยที่การเรียนรู้เกี่ยวกับ Mindfulness นั้นอาจเริ่มต้นจาก
| สังเกตว่าความคิดเข้ามาและเข้าไป
และสิ่งเหล่านี้มีกระบวนการเข้ามาอย่างไร
เช่น หากเรากำลังรู้สึกว่าตนเองอารมณ์ไม่ดี อาจสำรวจเบื้องต้นว่าความรู้สึกเหล่านั้นเกิดจากอะไร และเราจะจัดการกับมันอย่างไรต่อ
| สังเกตสิ่งที่ร่างกายกำลังพยายามบอก
หากกำลังรู้สึกตึงเครียดหรือวิตกกังวลจนร่างกายแสดงปฏิกิริยาบางอย่างออกมา เช่น หัวใจเต้นเร็ว กล้ามเนื้อตึง หรือหายใจไม่เป็นจังหวะ ให้เรารู้เท่าทันกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
| สร้างช่องว่างระหว่างตัวเราและความคิดของเรา
เพื่อให้สามารถไตร่ตรองสถานการณ์และตอบสนองสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างใจเย็นมากยิ่งขึ้น
ซึ่งหากถามต่อว่าการอยู่กับปัจจุบันขณะผ่านการมี Mindfulness ที่ดีนั้น จะช่วยให้ลดปัญหาสุขภาพจิตได้หรือไม่? ทั้งภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล หรือกระทั่งความรู้สึกเครียดและไม่สบายใจ
อาจกล่าวได้ว่านอกเหนือไปจากการเข้ารับการรักษาหรือบำบัดจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว
การอยู่กับปัจจุบันก็เป็นประโยชน์ในการช่วยให้รู้เท่าทันสภาวะอารมณ์ในเบื้องต้นได้เช่นเดียวกัน เพราะนั่นอาจช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าโดยการวางทุกอย่างให้เป็น ‘ศูนย์กลาง’
ไม่ซ้าย
ไม่ขวา
ไม่เอนเอียงหรือแกว่งไปเพราะโดนอะไรมาไขว้เขว
การรับรู้ชั่วขณะที่เกิดขึ้น อาจช่วยให้เราเข้าใจสภาวะใดๆ ที่เรากำลังเป็นอยู่
และเมื่อใดที่เรารู้สึกกังวล
การมีสติ
อยู่กับปัจจุบันขณะ
สิ่งเหล่านี้อาจช่วยให้เราสงบสติอารมณ์โดยสามารถเชื่อมต่อกับตัวเอง
ผ่านการทำความเข้าใจสถานการณ์ได้มากยิ่งขึ้น
เชื่อว่าหลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า ‘Empathy’ กันมาไม่น้อย โดยเฉพาะพักหลังมาคำนี้ก็ยิ่งทวีคูณการใช้บ่อยๆ ขึ้นในหลากหลายบริบท
เข้าเดือนธันวามาไม่เท่าไร หน้าจอไทม์ไลน์ก็เต็มไปด้วยโพสต์ที่ถูกแชร์จากมิตรสหายหลายท่านว่าด้วย Spotify Wrapped ที่ย้อนรีแคปเพลงที่แต่ละคนฟังมาตลอดปี 2024 นี้ เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่บอกเล่ากับเราว่า ‘ปีนี้’ กำลังจะผ่านไป และกำลังจะกลายเป็นปีที่แล้วของปีหน้า
สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดของการเป็นนักกีฬาคือ ‘การมีสติ’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่คุณจะพลิกวิกฤตจากการเพลี่ยงพล้ำจนเกือบเสียคะแนน นั่นอาจเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่จิตใจของคุณจะแข็งแกร่งมากขึ้น