The Present Move

เมื่อ ‘วันนี้’ คือ เมื่อวานของพรุ่งนี้

The Present Move | Mindful Global Citizens

กระแสธารและกาลเวลาที่ผันผ่าน
และปัจจุบันขณะที่เราลงมือสรรค์สร้าง
ได้อย่างมั่นคงด้วยตัวเอง

อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต
3 คำที่เรารู้กันดีว่ามีความเกี่ยวข้องกันในมิติของกาลเวลา
ถึงแม้ว่าสารัตถะในกลการนิยามนั้นยังคงยากจะอธิบาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำว่า ‘ปัจจุบันขณะ’

เคยสังเกตไหม? ปัจจุบันขณะของเราเป็นอย่างไร
ก็มีกลไกและสาเหตุมาจากสถานการณ์ในอดีตอยู่ไม่น้อย

ตัวอย่างเช่น

“วันนี้ผู้เขียนตื่น (เกือบ) สาย เพราะเมื่อคืนมัวแต่ดูซีรีส์จนดึกดื่น
บ่ายวันนี้ผู้เขียนอารมณ์ดีสุดๆ เพราะว่าได้รับข้อความตอบรับว่างานที่เสนอไปก่อนหน้านี้ผ่านฉลุย”

และความโยงใยในสายธารของกาลเวลาดังกล่าวก็ยิ่งน่าสนใจ

เพราะปัจจุบันขณะนั้นส่งผลต่ออนาคตเช่นเดียวกัน

ดังเช่น ณ ตอนนี้ผู้เขียนยิ้มไม่หุบและรู้สึกตื่นเต้นเพราะกำลังจะได้เจอกับคนที่รอคอยจะได้พบมานานแสนนาน (และรู้ว่าเราจะต้องมีความสุขอย่างมากมายแน่ๆ แค่เพียงได้เห็นหน้าเขาคนนั้น)

นั่นแหละ ความน่าสนใจของสายใยทางการเวลา

ที่กลายมาเป็นกระแสธารเชื่อมต่อตัวเราเองกับใครสักคนในแทบจะทุกขณะจิต

หากเปรียบเทียบ ‘ปัจจุบันขณะ’ 
เป็นต้นไม้ต้นหนึ่งที่เรากำลังลงแรงขุดดินเพื่อใส่เมล็ดพันธุ์
รอคอยเขาเหล่านั้นให้เติบโต

รากแก้วที่แข็งแรงและฝังหยั่งลึ
ตามกระแสธารเวลาที่แปรผันผ่าน

แต่นั่นจะไม่ผ่านไปอย่างน่าเสียดาย
เพราะความแข็งแกร่งมากมายที่เราล้วนลงมือก่อร่างสร้างมาตั้งแต่ต้น

หากลองนึกภาพตาม และคิดว่าตัวเองเป็นต้นไม้สักต้น
การค่อยๆ เริ่มต้นปลูกเขาด้วยใจรักและทะนุถนอม
จนถึงวันที่ผลิดอกออกผลราวกับเปล่งประกายและได้เฉิดฉาย
พร้อมกันกับรากแก้วที่มั่นคงไปด้วยกันนั้น

มันอาจจะดีไม่น้อยเลยใช่ไหม
หากเราได้เติบโตด้วยกันไปเช่นนี้

มาร่วมสร้างปัจจุบันขณะอย่างมีคุณค่า
และดื่มด่ำไปกับกระแสธารเวลาที่ส่งผลต่อกัน

เพราะถึง ‘วันนี้’ คือ เมื่อวานของพรุ่งนี้
กระแสธารและกาลเวลาจะผันผ่าน
แต่เราสามารถร่วมสร้าง ‘ปัจจุบันขณะ’ ได้อย่างมั่นคงด้วยตัวเอง

เพราะการใส่ใจดูแลปัจจุบัน
คือการดูแลอนาคตอย่างมั่นคงไปด้วยในตัว

Writer | ภาพตะวัน 

Illustrator | Arunnoon

เมื่อลูกเปลี่ยนเรา และการเป็นพ่อแม่เต็มไปด้วยบทเรียนพิเศษ คุยกับแม่หน่อยและพ่อบอล จาก ‘เพจมีลูกเป็นครู’ จากบทเรียนที่ทำให้เข้าใจว่าไม่มีอะไรสำคัญเท่าปัจจุบัน

พูดคุยถึงเรื่องราวการเดินทางของครอบครัวที่กลายมาเป็นเรื่องเล่าแห่งความรัก ศรัทธา ปาฏิหาริย์ ในเพจ ‘มีลูกเป็นครู’ ซึ่งมี แม่หน่อย-กนกวรรณ หรุ่นบรรจบ คุณแม่ของน้องตโจ เด็กชายอารมณ์ดีวัย 9 ขวบ เป็นผู้ก่อตั้ง และมี พ่อบอล-รณรงค์ ประดิษฐ์ทัศนีย์ เป็นกองหนุนที่คอยเสริมกำลังใจอยู่ไม่ห่าง

Kintsugi/Wabi-Sabi เติบโตจากรอยร้าว โอบรับความเป็นเราจากบาดแผลในชีวิต 

คินสึงิ ชวนให้เรามองถึงการเยียวยา กอบกู้คุณค่าของตนเอง และเติบโตผ่านบาดแผลแม้ในวันที่แตกสลาย ขณะที่วาบิ-ซาบิ ชวนให้เราโอบรับตัวตนที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็น แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็งดงาม และมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร