ชวนรู้จักการ ‘Observing’ เพราะการ ‘สังเกต’ เป็นอะไรที่มากกว่าแค่ ‘มองเห็น’
ไม่แปลกอะไรถ้าเราจะรู้สึกแบบใดแบบหนึ่งกับคำเหล่านี้ เพราะสมองของมนุษย์มีระบบอัตโนมัติที่คอยจัดหมวดหมู่ประสบการณ์ต่างๆ ที่พบเจอ แบ่งคร่าวๆ ตามความรู้สึกว่า ชอบ ไม่ชอบ หรือเฉยๆ
หลายห้วงเวลาในขวบวัยแห่งการเติบโต
เราทุกคนล้วนเจออุปสรรคมากมาย
ในหลายต่อหลายครั้งเราเองก็อาจจะท้อใจไปบ้าง หรือไม่ก็รู้สึกว่าเรื่องเหล่านั้นเป็นเรื่อง
ที่ยากเกินกว่าจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้
บางครั้งสิ่งที่เราต้องการนั้นก็อาจเป็นเพียงแค่กำลังใจ
หรือคำพูดดีๆ จากใครสักคนที่ปลอบประโลมเราในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
วันนี้ The Present Move เลยขอมาส่งต่อกำลังใจดีๆ ให้กับทุกท่านที่แวะเวียนมาอ่านโพสต์นี้ในวันนี้ เพราะว่าโลกนี้ไม่มีอะไรบังเอิญ และอัลกอริทึมนำพาให้เรามาพบกันอาจเป็นเพราะเพื่อส่งมอบข้อความและพลังงานดีๆ ให้กันและกันเช่นนี้ก็ได้นะคะ
| 1. สิ่งที่ฉุดรั้งเราไว้อาจเป็นความกลัวต่อการเปลี่ยนแปลง
เชื่อเหลือเกินว่าเมื่อเราพูดถึงคำว่า ‘การเปลี่ยนแปลง’ แต่ละคนอาจมีมุมมองที่ต่างกันออกไป บ้างก็อาจรู้สึกกลัวเพราะฟังดูเป็นการออกจากคอมฟอร์ตโซนที่เราคุ้นชิน บ้างก็อาจรู้สึกตื่นเต้นว่าชีวิตจะนำพาให้เราก้าวไปอยู่ที่จุดไหน แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นคือการที่ชีวิตเราจะก้าวไปสู่จุดใหม่แน่ๆ เพราะฉะนั้นการเตรียมตัวและหัวใจให้พร้อมอยู่เสมอ นั่นอาจเป็นการผนึกกำลังที่ดี เพื่อที่เมื่อถึงเวลาที่มีโอกาสเข้ามาแล้ว เราจะได้ก้าวต่อไปได้อย่างที่ใจหวังโดยไม่ติดขัดอะไร
| 2. ก้าวแรกนั้นสำคัญเพื่อนำไปสู่ก้าวถัดไปที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
“ไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิด” วลีนี้ยังคงใช้ได้เสมอ ในบางครั้งเราอาจไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ตั้งแต่เริ่มต้น แต่สิ่งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่ความยิ่งใหญ่ก็เป็นได้
| 3. ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
เพราะทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมเป็นการเริ่มต้นใหม่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม และชีวิตเรามักมีการเปลี่ยนแปลงในทุกเรื่องอยู่ตลอดเวลาเสมอ
| 4. นอกจากหายใจ เรายังต้องใช้ชีวิต
เคยไหม? รู้สึกว่าในบางครั้งเราก็หายใจไปวันๆ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าได้ใช้ชีวิตเลยสักนิด
วันนี้เราจึงอยากลองชวนทุกท่านให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน ดูแลกายและใจตัวเอง ให้ค่อยๆ รู้สึกถึงความเป็นไป และอาจระวังไม่ให้เอาอะไรที่มากเกินไปมากัดกินการใช้ชีวิตตามที่อยากจะใช้
| 5. ความรักอาจไม่ได้ทำร้าย แต่คนไม่รู้จักวิธีรักต่างหาก
ไม่ว่าจะเป็นการใช้ ‘ความไม่รัก’ หรือการใช้ความรักทำร้าย เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ใจร้ายสุดๆ
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาจมีใครบางคนที่ใช้ช่องทางนี้ในการบีบคั้นหรือทำร้าย จากการใช้ความรักเป็นข้อฉกฉวยผลประโยชน์บางอย่าง หรือในบางครั้งเขาเหล่านั้นอาจไม่รู้จักความรักที่แท้จริงก็เป็นได้
| 6. ‘มุมมอง’ เป็นสิ่งสำคัญ
ไม่ว่าจะเป็นพลังผลักดันให้ทำอะไรไปในทิศทางไหน ‘มุมมอง’ ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเสมอ
เพราะไม่ว่าจะรับมือกับสถานการณ์ไหนด้วยสิ่งใดก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งนี้คือ ‘ด่านแรก’ ซึ่งจะส่งผลต่อไปถึงการแก้ไขและรับมือกับปัญหา ซึ่งมุมมองสามารถเป็นได้ทั้งพลังอันยิ่งใหญ่ หรือกรงขังได้ทั้งสิ้น
| 7. ชีวิตอาจไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบเสมอไป
เพราะคำว่า ‘สมบูรณ์แบบ’ ของแต่ละคนย่อมมีความแตกต่างกัน และย่อมไม่มีสูตรสำเร็จที่ตายตัว การวิ่งตามกระแสสังคมเกินไปอาจทำให้เราร่วงหล่นไปจากจิตใจของตัวเอง
| 8. ชีวิตจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับทัศนคติที่เรามี
หากชีวิตจะดีได้ อาจต้องปรับจากทัศนคติ (Mindset) ของเราก่อน ไม่ว่าจะเป็นทัศนคติที่เรามีต่อตัวเอง ต่อสิ่งรอบข้าง ต่อผู้อื่น และต่อโลกอันกว้างใหญ่ใบนี้ เพราะทั้งหมดทั้งมวลล้วนเกี่ยวข้องระหว่างกันอย่างแยกไม่ขาด
ไม่แปลกอะไรถ้าเราจะรู้สึกแบบใดแบบหนึ่งกับคำเหล่านี้ เพราะสมองของมนุษย์มีระบบอัตโนมัติที่คอยจัดหมวดหมู่ประสบการณ์ต่างๆ ที่พบเจอ แบ่งคร่าวๆ ตามความรู้สึกว่า ชอบ ไม่ชอบ หรือเฉยๆ
คินสึงิ ชวนให้เรามองถึงการเยียวยา กอบกู้คุณค่าของตนเอง และเติบโตผ่านบาดแผลแม้ในวันที่แตกสลาย ขณะที่วาบิ-ซาบิ ชวนให้เราโอบรับตัวตนที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็น แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็งดงาม และมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
ชวนทุกท่านมารู้จักกับ ‘โพโมโดโร’ (POMODORO) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีการทำงานและแบ่งเวลาที่อาจกำลังบอกเราว่า หากจะมี work-life balance ที่แท้จริงได้นั้น อาจเริ่มจากการคิดเรื่อง ‘เวลาพัก’